สนามบินแตก! เปิดโพย ‘Duty Free ญี่ปุ่น’ ช้อปอะไรดีก่อนกลับ? เงินเหรียญสุดท้ายก็ต้องยอม! 💸✈️

เอาล่ะสหายนักช้อป! ด่านสุดท้ายก่อนโบกมือลาญี่ปุ่นที่แท้ทรู มันคือสมรภูมิที่เรียกว่า “Duty Free” ที่สนามบินนั่นเอง! ที่นี่คือโอกาสสุดท้ายที่เราจะใช้เงินเยนทุกเหรียญที่มีในกระเป๋าให้คุ้มค่าที่สุด! แต่ในสนามบินที่เต็มไปด้วยของล่อตาล่อใจ เราควรจะพุ่งไปที่ไหน? ควรจะตำอะไรดี? มาค่ะ! จะมาเปิดโพยชี้เป้าของเด็ดที่ต้องกวาดลงตะกร้า รับรองว่าคุ้มค่าทุกเยน!

หมวดที่ 1: ขนมในตำนาน (The Hall of Fame) 🍫

นี่คือหมวดที่สำคัญที่สุด! ของฝากสุดคลาสสิกที่ใครได้รับก็ต้องกรี๊ด ใครซื้อกลับไปกินเองก็ฟิน!

1. ROYCE’ Nama Chocolate (ช็อกโกแลตสดรอยซ์):
   • จุดเด่น: ที่สุดของความนุ่มละมุน! เป็นช็อกโกแลตสดที่ละลายในปากเหมือนปุยเมฆ ไม่หวานเกินไป รสชาติเข้มข้นถึงใจ รสชาเขียว (Matcha) คือที่สุดของที่สุด! ต้องซื้อแพ็คน้ำแข็งแห้งเพื่อรักษาความเย็นกลับมาด้วยนะ
2. Shiroi Koibito (ชิโรอิ โคอิบิโตะ):
   • จุดเด่น: คุกกี้ลิ้นแมวบางกรอบสอดไส้ไวท์ช็อกโกแลตสุดพรีเมียม แพ็กเกจจิ้งสวยหรูสีน้ำเงิน เหมาะเป็นของฝากให้ผู้ใหญ่หรือหัวหน้ามากๆ เป็นของฝากสุดคลาสสิกจากฮอกไกโดที่ใครๆ ก็รู้จัก
3. Tokyo Banana:
   • จุดเด่น: ตัวแม่แห่งของฝากโตเกียว! เค้กเนื้อนุ่มฟูรูปกล้วย สอดไส้คัสตาร์ดครีมหอมหวาน เดี๋ยวนี้มีลวดลายน่ารักๆ ตามเทศกาลออกมาเพียบ (เช่น ลายพิคาชู, ลายคิตตี้) เห็นแล้วใจละลาย ต้องซื้อ!
4. Jaga Pokkuru / Jaga Boulde (มันฝรั่งแท่ง):
   • จุดเด่น: อย่าคิดว่ามันคือเฟรนช์ฟรายส์ธรรมดา! นี่คือมันฝรั่งแท่งจากฮอกไกโดที่ผลิตโดย Calbee เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่ได้ ใครได้ลองก็ติดใจทุกราย!
5. KitKat Japan (คิทแคทญี่ปุ่น):
   • จุดเด่น: ลืมคิทแคทรสช็อกโกแลตธรรมดาไปเลย! ที่ญี่ปุ่นคือสวรรค์ของคิทแคทรสชาติแปลกใหม่ที่คุณหาจากที่ไหนในโลกไม่ได้! ทั้ง รสสาเก, รสวาซาบิ, รสสตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก, รสชาเขียวเข้มข้น เหมาะกับการซื้อไปแจกเพื่อนที่ทำงานที่สุด!
     
     

หมวดที่ 2: เครื่องสำอาง & สกินแคร์ (Beauty Haul) 💄

ซื้อที่ Duty Free คือได้ของแท้ในราคาที่ถูกกว่าเคาน์เตอร์ไทยไปอีก!

1. SK-II:
   • จุดเด่น: “น้ำตบป้าเจี๊ยบ” ในตำนาน! ที่ Duty Free มักจะมี เซ็ตสุดคุ้ม ที่มาในขวดไซส์ใหญ่พิเศษ หรือแพ็คคู่ที่ราคาดีงามมาก เป็นของฝากให้คุณแม่เบอร์หนึ่งเลย
2. SHISEIDO:
   • จุดเด่น: แบรนด์ญี่ปุ่นคุณภาพที่ไว้ใจได้ โดยเฉพาะ กันแดด Anessa สีทองคือไอเทมที่ทุกคนต้องซื้อตุน! นอกจากนี้ยังมีสกินแคร์และเครื่องสำอางอื่นๆ ที่มักมี Travel Set น่ารักๆ ขายด้วย
3. THREE / SUQQU:
   • จุดเด่น: สำหรับสายบิวตี้ที่ชอบความมินิมอลแต่หรูหรา สองแบรนด์นี้คือคำตอบ! คลีนซิ่งออยล์ของ THREE หรือรองพื้นของ SUQQU คือไอเทมเด็ดที่บิวตี้บล็อกเกอร์แนะนำ ควรค่าแก่การลงทุน

หมวดที่ 3: เหล้า & สาเก (Cheers to Japan!) 🍶

ของฝากสำหรับสายดื่ม ที่ซื้อที่ญี่ปุ่นถูกกว่าไทยแบบเห็นๆ

1. Japanese Whisky:
   • จุดเด่น: วิสกี้ญี่ปุ่นอย่าง Hibiki, Yamazaki, Suntory คือของแรร์ที่ทั่วโลกตามหา การซื้อที่ Duty Free ญี่ปุ่นคือโอกาสที่ดีที่สุดที่จะได้มาในราคาที่สมเหตุสมผล (ถ้ามีของนะ!) เป็นของฝากให้คุณพ่อหรือเจ้านายที่ท่านต้องยิ้มแก้มปริ
2. Dassai Sake (สาเกดัสไซ):
   • จุดเด่น: สาเกสุดพรีเมียมที่ดังไกลระดับโลก แต่ดื่มง่ายมาก! มีความหอมหวานเหมือนผลไม้ ไม่บาดคอ เหมาะสำหรับคนที่อยากลองดื่มสาเกดีๆ สักครั้ง แนะนำ Dassai 45 หรือ Dassai 23
3. Umeshu (เหล้าบ๊วย):
   • จุดเด่น: หวานหอม ดื่มง่าย แช่เย็นแล้วกินเพียวๆ หรือผสมโซดาก็สดชื่น! เป็นเหล้าที่ถูกใจสาวๆ มาก มีให้เลือกหลายยี่ห้อ ลองเลือกขวดที่แพ็กเกจสวยๆ ได้เลย

ทิปสุดท้ายก่อนช้อป:

• เช็ก Gate ดีๆ: ดูว่า Gate ที่เราจะไปขึ้นเครื่องอยู่ตรงไหน จะได้ช้อปเพลินจนลืมเวลาแล้ววิ่งไปขึ้นเครื่องไม่ทัน!
• เตรียมพาสปอร์ตและ Boarding Pass: ต้องใช้สองอย่างนี้ในการซื้อของ Duty Free เสมอ
• ใช้เงินสดให้หมด: ใครมีเงินเหรียญเหลือๆ นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะใช้ให้หมดไปกับตู้กาชาปองหรือกดน้ำขวดสุดท้าย!

ขอให้ทุกคนสนุกกับการช้อปปิดท้ายทริปนะ! ได้ของครบแล้วก็เตรียมตัวกลับบ้านไปแกะของฝากฟินๆ กันได้เลย!