ทัวร์ครึ่งวันเมืองเพชรบุรี ฟินสุดติ่ง กิน เที่ยว คุ้มค่ากับการมาเยือน!!

ชวนเพื่อนเที่ยวได้เลยจ้า

ในวันว่างๆ นั่งดูฟีดเฟซบุ้คเพลินๆ เห็นคนนู้น คนนี้เค้าเที่ยวกัน เราก็อยากจะเที่ยวบ้าง อิอิ แล้วก้อมีสิ่งหนึ่งเด้งมา ททท.เพชรบุรี เชิญเที่ยวนั่งรถเล้งเที่ยวเมืองเพชร!!!  อืมม โปรแกรมน่าสนใจแฮะ และเรายังไม่เคยไปเมืองเพชร หรือเที่ยวในตัวเมืองเพชรบุรีสักครั้ง  คงต้องจัดแล้วล่ะ ^^

ตอนนี้เราอยู่หัวหิน โทรหาเจ้าถิ่นกันเลยดีกว่า แล้วเราก้อนัดแนะกัน ออกเดินทางจากหัวหิน ประมาณ 11.30 น. ก็ใช้เวลาขับรถไม่ต้องเร่งรีบ ชั่วโมงนึงก็ถึงจุดหมายปลายทางค่ะ  แต่ทริปนี้ของเรา จะไม่เหมือนที่ ททท.แนะนำ เพราะเรามีเวลาจำกัด น้องๆ ต้องไปทำงานตอนเย็นกันต่อ แต่เค้ารับรองว่า คุ้มค่า!!!!   ที่แรก ที่เจ้าถิ่นเค้าแนะนำ ก็คือ ถ้ำเขาหลวงค่ะ

ถ้ำเขาหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดเล็กค่ะ ไม่สูงมาก มีความสูงประมาณ 92 เมตร อยู่ในตัวเมืองเพชรบุรีค่ะ  อันที่จริง เราสามารถขับรถขึ้นไปถึงทางลงไปดูถ้ำกันได้นะคะ ด้านบน แต่เพืื่อเป็นการสร้างรายได้ ช่วยเหลือชาวบ้าน ให้มีรายได้ พวกเราจึงจอดรถไว้ด้านล่าง แล้วใช้บริการรถเล้ง (รถประจำทางคันเล็กๆ) ของชาวบ้านนั่งขึ้นไปค่ะ  ค่าบริการก็ไม่แพงนะคะ คนละ 15 บาท ไป-กลับ  ร่วมด้วยช่วยกัน เค้าอยู่ได้ เราอยู่ได้ค่ะ ^^

เนื่องจากด้านบนมีลิงนะคะ จึงมีป้ายเตือนนักท่องเที่ยว ไม่ให้ถือน้ำ และอาหารขึ้นไประหว่างการเข้าชมถ้ำเขาหลวง ไม่งั้นเจ้าลิงจ๋อ จะมาแย่งนะคะ อันตราย ต้องเชื่อเจ้าถิ่นนะจ๊ะ ก่อนลงถ้ำ ก็จะมีจุดบริการห้องน้ำค่ะ แนะนำให้เข้าห้องน้ำกันให้เรียบร้อยก่อนนะคะ จะได้เดินชมอย่างมีความสุข อิอิ (ห้องน้ำสะอาดค่ะ)

พร้อมขึ้นเขาไปชมถ้ำเขาหลวงกันแล้วจ้า

นี่คือรถเล้ง  ค่าบริการท่านละ 15 บาท (ทั้งขาไป และ ขากลับ ขึ้นได้ทุกคัน)

เจ้าถิ่น ตัวจริง เสียงจริง  ห้ามถือขวดน้ำ และอาหาร ขึ้นมาใกล้เค้าน๊าาาา

แอ๊คติ้งเริ่ดๆ ของน้องสาว พร้อมเดินลงไปชมเขาหลวง ได้ใจมั้ยคะ 555

เมื่อเดินมาถึงทางลงถ้ำเขาหลวง ดูสูง และหวั่นๆ ว่า เราจะเดินได้มั้ยเนี่ย ขาเป็นเกร็งๆ อิอิ เพราะกลัวความสูงค่ะ แต่ไม่เป็นไร ทำใจดีๆ ค่อยๆ เดินละกัน  ทางลงเป็นบันได ค่อนข้างชัน มีราวบันได จับไว้ด้วยนะคะระหว่างเดิน  แนะนำให้เดินช้าๆ ระวังๆ กันหน่อยนะคะ  รองเท้าให้ใส่ผ้าใบมากันจะดีมากๆค่ะ

เรียกปุ๊บ ไม่ต้องบอก ท่าพร้อม จิกกล้องตลอดๆ  ^^

ความสวยงามของถ้ำเขาหลวง ที่ธรรมชาติให้มา

และแล้ว ก็มาถึงแล้วคร้าาาา ถ้ำเขาหลวง เดินลงมาด้วยความปลอดภัย แหงนไปมองด้านบน ตามบันไดที่เราเดินลงมาเมื่อตะกี้ สูงมากเลยทีเดียว

ขอบอกว่า นี่เป็นการเดินชมถ้ำครั้งแรกของแอดมินเลยนะคะ ขอบอกว่า มันช่างสวยงาม และอลังการมากๆค่ะ ไม่น่าเชื่อ ว่าภายในถ้ำ จะกว้างใหญ่ จัดแสงไฟส่องสว่างได้อย่างสวยงาม บวกกับแสงสว่างจากธรรมชาติ ช่างกลมกลืมกันเป็นอย่างยิ่ง ตามเก็บภาพสวยๆ ภายในถ้ำเขาหลวง มาให้ชมกันต่อค่ะ

ภายในถ้ำเขาหลวง ก็จะมีพระพุทธรูป ตามจุดต่างๆ มีจำลองรอยพระพุทธบาท มีพระนอนขนาดใหญ่ และมีพระประธานองค์ใหญ่  “หลวงพ่อหลวง”  เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ ณ จุดนี้ สวยงามมากๆค่ะ มีแสงสว่างส่องลงมา อเมซิ่ง สวยงามสุดๆ  ถ้ำเขาหลวงแห่งนี้ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และ รัชกาลที่ 5 ท่านเคยเสด็จฯมาด้วยนะคะ

นางขอพรอะไรน๊อ?????

มีดอกไม้ให้บูชาภายในถ้ำ 20 บาท

ปล่องแสงธรรมชาติ ที่ส่องลงมายัง พระประธาน “หลวงพ่อหลวง”

ไหว้หลวงพ่อหลวง ขอพรกันครบทุกคนแล้ว ก็เดินสำรวจกันต่อค่ะ เข้ามาลึกๆ ด้านในก็จะเป็น พระนอนองค์ใหญ่ และมีช่องประตูกั้นเข้าไปอีกโถงถัดไปของถ้ำค่ะ

พอเราเดินเข้ามา ก็จะพบกับ เจดีย์ 3 องค์  เป็นเจดีย์ทรงระฆัง 2 องค์ และ เจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม 1 องค์ สวยงามมากๆค่ะ  และจะมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ในซุ้มเรือนแก้ว 3 องค์ สวยงาม น่าเลื่อมใสเป็นอย่างมาก เดินเลยไปอีกนิด ณ จุดนี้ จะเป็นแสงแดดส่องลงมาเป็นลำแสงที่ดูแปลกตา นักท่องเที่ยวหลายคนต่างจับจองถ่ายรูปกับมุมนี้กันสุดฤทธิ์ รวมทั้งเรา 3 คน วิ่งกรูทันที เมื่อว่าง 555 แล้วก็ได้รูปออกมาอย่างที่เห็น

เอิ่ม ขอโทษนะน้องสาว มุมนี้พี่ดูกี่ทีก็ขำอ่ะ ^^

ถัดมาใกล้ๆ บริเวณลำแสงที่เราถ่ายรูป ก็จะมีรูปปั้น เรียกว่า รูปเคารพตา-ยาย เล่ากันว่า เป็นชาวลาวโซ่ง หรือไทยทรงดำ ที่ได้รับการว่าจ้างจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ให้มาเฝ้าถ้ำ เมื่อท่านทั้งสองเสียชีวิต ชาวบ้านจึงได้มาสร้างรูปปั้นไว้เพื่อเป็นที่ระลึก

และจากจุดนี้ เนื่องจากเวลาเรามีจำกัด จึงไม่ได้เดินสำรวจถ้ำหลวงจนถึงจุดสำคัญโถงสุดท้าย ที่จะมีหินงอกหินย้อยอันสวยงาม คล้ายเศียรช้าง และมีรูปปั้นคล้ายรูปซากศพทหาร ที่นอนเฝ้าถ้ำ และจุดสุดท้ายของถ้ำจะเป็นที่ประดิษฐานของ  “องค์พ่อปู่ฤาษีนารายณ์” ไว้มีโอกาส เราคงจะได้เข้าไปชั้นสุดท้าย ถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันนะคะ   ถ้ำเขาหลวง เปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าชมทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ เปิดบริการ 09.00 – 16.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดบริการ 09.00-17.00 น.

ทริปเรายังไม่จบนะคะ เด๋วแอดมิน จะมาเล่ากันต่อว่าเราไปฟินอะไร จุดไหนของเมืองเพชรกันอีก โปรดติดตามนะคะ ^^

เดินกันอยู่ในถ้ำชมความงามกันนานพอสมควร ท้องเริ่มร้องกันละ เจ้าถิ่นเค้าบอกว่า จะพาไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย แต่คนขายหน้างอ และรอนาน อ้าว!!! แล้วทำไมต้องไป แต่อร่อย ต้องลอง!! พูดต่อแบบนี้ ก็ต้องไปโดนสักหน่อย ว่า เจ้าของร้าน หน้างอ และให้รอนาน มันเป็นอย่างไร อิอิ  ขึ้นชื่อเมืองเพชรขนาดนี้ ไม่ถึงถิ่นที่ต้องกิน จะเสียเที่ยวเอาเนอะ แฮร่ๆๆๆ

ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราจะไปชิมความอร่อย พร้อมกับดูความหน้างอของเจ้าของร้าน อิอิ มีชื่อว่า “เพ็ญพริกเผ็ด” ร้านนี้ยังมีกฏเหล็กอีกนะคะ ห้ามเล่นโทรศัพท์ระหว่างกิน คิดว่าเหตุผลคือ คนอื่นๆ ที่รอ จะได้ไม่ต้องรอนานเกินไปนั่นเอง ร้านเพ็ญพริกเผ็ด ตั้งอยู่หน้าวัดใหญ่สุวรรณาราม หรือเรียกสั้นๆ ว่า “วัดใหญ่”  เราเอารถเข้าไปจอดในวัดแล้วเดินมากินกันได้เลยสบายๆค่ะ

ตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ในร้าน ถ่ายรูป เล่นมือถือได้ ^^

จอดรถเรียบร้อย มาเลยจ้า ข้ามฝั่งมาชิมก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย เพ็ญพริกเผ็ดกันค่ะ  ร้านไม่ใหญ่มาก แต่คนรอกินกันเยอะเลยทีเดียว!!!! มันต้องมีดีสิน่า   มีคนนั่งรอก่อนหน้าเราประมาณ สาม สี่ คิว แอบมองคนขายอยู่ใกลๆ ไม่กล้าถ่ายรูป กลัวโดนด่า 5555  มองแต่ละโต๊ะ ไม่มีใครหยิบมือถือมากันเลยแฮะ ^^  ในการลวกก๋วยเตี๋ยวจะมีเจ๊เพ็ญและผู้ช่วย 1 คน มีพี่อีกคนเป็นคนรับออเดอร์ นางสามารถมากๆนะคะ ไม่มีการจดเลย ไม่รู้ว่าจำที่ลูกค้าสั่งหมดได้ยังงัย สุดยอดเลย!!!  และอีกอย่าง พี่แกจะจำได้ ว่าลูกค้าคนไหนมารอก่อนหลัง จัดคิวได้เป๊ะมากๆ

ร่มสีฟ้า หน้าวัด  “ร้านก๋วยเตี๋ยวเพ็ญพริกเผ็ด”

คนเต็มร้านเลยจ้า  นั่งกินๆ นั่งทาน ห้ามเล่นมือถือ ^^

และก็ถึงคิวของเราค่ะ  จะว่านาน ก็ไม่นานเท่าไหร่ค่ะ เพราะทุกคนสั่งแล้วก็กินๆ อิอิ   พี่พนักงานเดินมาที่โต๊ะของเรา บอกว่า ตอนนี้เหลือแต่ หมี่ขาวกับเส้นเล็ก  น้องสาวเราแจ้งก่อนเลย ขอหมี่ขาวแห้ง นางตอบอย่างไว น้ำรอ 10 นาที แห้งรอ 30 นาที แล้วแต่น้อง จะเลือกเอาแบบไหน  สามคนมองหน้ากัน!!  เฮ้ย แห้งรอนานขนาดนั้นเลยรึ มัวไปทำอะไรกัน 55555   น้องรีบตอบเสียงอ่อยๆ งั้นน้ำก้อได้ค่ะพี่  สรุป เรา 3 คน กินแบบเดียวกันหมด พร้อมสั่งลวกจิ้มอีก 1 จาน

 

ชุดลวกจิ้ม มีหมูหวานด้วยนะคะ อร่อยค่ะ แนะนำให้ลอง

หน้าตาน่าทานมากๆค่ะ ราคาชามละ 40 บาท ด้วยปริมาณ ก็เหมาะสมดี  รสชาด ขอบอกเลยว่า อร่อย สมคำร่ำลือค่ะ( น้ำซุป เนื้อหมู และ ลูกชิ้น (ร้านทำเอง)  อร่อย 5 ดาว  เจ๊แกหน้างอ แต่ก็อร่อยเด็ดคร้าาาา ร้านนี้ขอแนะนำค่ะ  ไม่กล้าไปถ่ายรูปข้างหน้า ขอแบบว่า พอเห็นลางๆ ก็พอเนอะ  หนูกัว 5555  แต่คิดว่า แกไม่ยิ้ม คงเพราะลูกค้าเยอะ ต้องรีบๆ ทำ จะได้กินกันได้ทั่วถึงทุกคน

หนังท้องตึงแระ ก็ถึงคราวต้องเดินย่อย สถานนีต่อไปของเราก็คือ ที่ ที่เราจอดรถกันนั่นเอง “วัดใหญ่สุวรรณาราม”  หรือ ชาวบ้านเรียก “วัดใหญ่” เป็นวัดเก่าแก่ และมีความสำคัญของเมืองเพชรบุรี  สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา จุดเด่น 2 จุด ที่ไม่ควรพลาดในการมาชมวัดใหญ่สุวรรณาราม คือ พระอุโบสถ และ ศาลาการเปรียญค่ะ  ป่ะ ไปชมกัน

วัดนี้สวย และกว้างใหญ่ เราเดินสำรวจ ก่อนที่จะถึงอุโบสถ จะเจออ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีปลาจำนวนมาก ก็ขอให้อาหารปลากันซักหน่อยนะคะ ได้บุญๆๆๆ  แอบมี งูตัวใหญ่โผล่ออกมาจากโอ่งซะด้วย ^^

หอไตรกลางน้ำ

อิ่มบุญ ก็จะยิ้มแก้มปริ ประมาณนี้ ^^

ให้อาหารปลากันแล้ว เดินเข้าไปชมอุโบสถกันค่ะ ระหว่างที่เดิน วิวรอบๆ อุโบสถ ก็สวยงาม มีพระพุทธรูปหลายองค์ เรียงราย  สวยงาม น่าเลื่อมใส

เดินวนกันจนถึงหน้าอุโบสถกันแล้วนะคะ  วันนี้มีน้องๆ นักศึกษามาเที่ยวชม อาจารย์กำลังอธิบายถึงศิลปะภายในอุโบสถ ความสวยงามศิลปะสมัยกรุงศรีอยุธยาให้กับน้องๆ เราก็เลยใช้เวลาไม่มากในการถ่ายรูป และเยี่ยมชมอุโบสถ สวยงามจริงๆ ค่ะ  องค์พระประธานสวยงาม เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีรูปหล่อพระสังฆราชแตงโม  ภาพและลายในอุโบสถแห่งนี้ มีอายุ กว่า 300 ปี เลยทีเดียว!!!

ภาพเขียนทวารบาล สวยงาม มาก

ชื่นชมความสวยงามของอุโบสถกันแล้ว จุดสำคัญที่เราต้องแวะชม ก็คือ ศาลาการเปรียญค่ะ   ซึ่งศาลาแห่งนี้มีความสวยงาม  เดิมทีเป็นของเจ้าฟ้าพระขวัญ หรือพระขวัญ พระราชโอรสของพระเพทราชา ซึ่งถูกพระเจ้าเสือสำเร็จโทษด้วยท่อนจันทน์ ต่อมาพระเจ้าเสือได้รื้อและถวายให้กับ พระสังฆราชแตงโม ศาลาการเปรียญนี้ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง แต่เดิมภายนอกเป็นฝาผนังเขียนลายทองทั้งหลัง แต่มีการบูรณะผิดพลาดจึงกลายเป็นสีแดง

จุดสำคัญในการเยี่ยมชมศาลาการเปรียญ จะมีป้ายบอกไว้ด้านหน้าตรงบันไดทางขึ้นค่ะ คือดีงามมากๆ ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมจุดหลักๆ สำคัญ ได้อย่างทั่วถึง เช่น รอยแผลบนประตู ที่เรียกว่า “รอยพม่าฟัน” แต่นักวิชาการลงความเห็นว่า อาจจะเป็นร่องรอยของการรื้อตำหนักถวายพระสังฆราชแตงโม

 

การมาเยือนวัดใหญ่สุวรรณาราม สิ้นสุดลงแล้วคร้าาาา  2 จุดที่เราได้เข้าชม เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เก็บรูปไว้มากมาย ประทับใจไปอีกเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่น่าจดจำ และแนะนำให้มาชมค่ะ

เวลาเย็นเต็มที แผนการท่องเที่ยวเราที่เหลือจะเป็นการกินล้วนๆ แฮ่ๆ  เราเป็นแก๊งค์สาวหวาน นี่เลยค่ะ พากันมาร้าน ขนมไทย ลูกเจี๊ยบ ขนมหวานแบบไทยๆ มีขนมหวานเยอะมว้ากกกก แบ่งเป็น 2 โซน โซนสำหรับซื้อของฝาก และ โซนร้านกาแฟ นั่งจิบกาแฟ กับขนมหวาน ฟินเฟร่อ ^^ เค้ามีโรงงานผลิตเองอยู่ติดๆ กันกับที่ร้านเลยนะคะ สั่งได้ไม่อั้น

เลือกซื้อไปฝากกันเรียบร้อยแล้ว เดินมาอีกฝั่งค่ะ ทานกาแฟ เครื่องดื่มเย็นๆ กับขนมไทยกัน พักร่างแปร้บ เดินมาทั้งวันแล้วเนอะ ^^

 

ขนมหวานก็ทานแล้ว คราวนี้มาหาอะไรกินเย็นๆ ที่มาเมืองเพชรหน้าร้อนๆ แบบนี้ จะขาดไม่ได้เลย  “ข้าวแช่”  และต้องเป็นข้าวแช่ในตำนานร้านนี้เท่านั้นนะจ๊ะ  “ข้าวแช่ป้าเอื้อน”   ราคาชุดละ 20 บาท ไม่แพงเลยค่ะ อร่อย ถูกใจสุดๆ ไม่เคยกินข้าวแช่ที่ไหน อร่อยเท่าเจ้านี้เลย อันนี้จากใจเลยนะคะ  แอดมินโปรดสุดๆ เมนูนี้  คุณป้าเอื้อนก็ใจดี  ยิ้มแย้ม แจ่มใส ถ่ายรูปกับพวกเราอย่างเป็นกันเอง  พิกัดร้านหาไม่ยาก อยู่เยื้องกับสถานีกาชาดที่ 8 ค่ะ จอดรถแล้วเดินข้ามฝั่งมา ตรงมุมตึกจะมีป้าเอื้อนขายข้าวแช่ ติดๆ กันก็จะขายขนมจีนซาวน้ำค่ะ

ถนนเส้นนี้เป็นวันเวย์ หาที่จอดแถวกาชาด แล้วเดินข้ามฝั่งมานะคะ ร้านข้าวแช่ป้าเอื้อน อยู่ข้างหน้าเลยจ้า

โฉมหน้าป้าเอื้อนคนสวย  คนข้างหลังนะ ไม่ใช่ข้างหน้า แฮ่ๆ

 

มาแล้วจ้า ข้าวแช่ หอมๆ เย็นๆ ชุดละ 20 บาท

อร่อยแบบนี้ ต้องมีติดไม้ติดมือกลับบ้านจ้า

โอยๆๆๆ ทริปฟิน พุงจิแตกที่เมืองเพชร เรายังไม่จบนะคะ ต้องรีบทำเวลาแล้วล่ะ ยังมีอีกที่นึงที่ทริปนี้เราต้องตามเก็บคือ ลอดช่อง ค่ะ  เจ้าถิ่นเค้าบอกอร่อย พลาดไม่ได้เลยทีเดียวเชียว  สารถีอย่างเรา รีบขับรถอย่างไว เพราะร้านใกล้จะปิดแล้วนั่นเอง และและ ก็ทันเวลาแบบพอดิบพอดี ร้านใกล้ปิด และด้วยท้องของเรา มีที่ว่างอีกนีสสสสนุง อิอิ เพื่อชิม ลอดช่องเจ้าดัง “ร้านโอวทึ้งนายกี๋”  หรือ ร้านลอดช่องน้ำตาลข้นนายกี๋  เป็นลอดช่องเก่าแก่ ที่เป็นลอดช่องทำจากน้ำตาลโตนด จึงหอมหวาน รสชาดเข้มข้น นอกจากลอดช่องยังมีจั้มบ๊ะไอติมด้วยนะคะ มาชิมกันได้ค่ะ เจ้าดั้งเดิมเลยค่ะ งานนี้ เรา 3 คน ทริปกินติดๆ กัน ตัดกำลังกันไปไม่น้อย หนังตาก็จะปิด ร้านก็จะปิดอีก ^^ ก็เลยสั่งมาชิม 1 แก้ว 3 คน 555  ปกติทางร้านจะเสริฟใส่ถ้วยนะคะ แต่ร้านจะปิดแล้ว เฮียแกก้อเลยใส่แก้วพลาสติกมาให้ค่ะ รสชาดหอมหวานค่ะ ใครชอบหวานๆ จากธรรมชาติแบบนี้ อย่าพลาดเลยค่ะ  วันนี้ขอลาทริปเมืองเพชร แบบครึ่งวัน นันสต๊อป กินไม่หยุด ไว้เพียงเท่านี้นะคะ ประทับใจสุดๆ ขากลับมีฝนตกเล็กน้อย  หากมีเวลา จะกลับมาเมืองเพชรเก็บสถานที่น่าเที่ยวกันต่อ มาฝากเพื่อนๆ ชิลล์ไหนดีกันอีกนะคะ  ขอขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^ วันนี้ ขณะขับรถ หนึ่งสาว งีบไปแระ อิ่มจัด 555  บ้าย บายยยยย

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : ทัวร์ครึ่งวันเมืองเพชรบุรี ฟินสุดติ่ง กิน เที่ยว คุ้มค่ากับการมาเยือน!!