แกรนด์แคนยอน จันทบุรี : คู่มือสำรวจเหมืองเก่าลับ สู่จุดชมวิวสุดอลังการ
I. เปิดตำนาน “แกรนด์แคนยอน จันทบุรี”: จากเหมืองดินสู่ทัศนียภาพ Unseen
A. บทนำสู่ “Unseen Chanthaburi”
จังหวัดจันทบุรี, แม้จะเป็นที่รู้จักในฐานะเมืองแห่งอัญมณีและผลไม้, ยังคงซุกซ่อนแหล่งท่องเที่ยวอันน่าทึ่งไว้มากมาย หนึ่งในนั้นคือ “แกรนด์แคนยอน จันทบุรี” 1 สถานที่แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในที่เที่ยวสวยลับแบบอันซีน (Unseen) ของจังหวัด 1 เนื่องจากยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักท่องเที่ยวทั่วไป 2
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ชุมชนหรือนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกๆ พยายามสร้างเอกลักษณ์ให้สถานที่แห่งนี้ โดยมักเรียกขานว่า “แกรนด์แคนยอน จันทบุรี (ของแท้)” 1 การเน้นย้ำคำว่า “(ของแท้)” นี้ สะท้อนถึงความพยายามในการสร้างแบรนด์ดิ้ง (Community-Driven Branding) เพื่อยืนยันตัวตนและสร้างความแตกต่างจาก “แกรนด์แคนยอน” อื่นๆ ที่ถูกค้นพบในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย เช่น ที่ชลบุรี หรือราชบุรี 6 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถานะความเป็น “สถานที่ลับ” ที่กำลังรอการค้นพบ
B. ประวัติศาสตร์และการกำเนิด: ภูมิทัศน์จากรอยแผล
สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำความเข้าใจคือ ภูมิทัศน์อันแปลกตานี้ ไม่ได้ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ 1 แต่เป็นภูมิทัศน์ที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-Made Landscape)
ประวัติความเป็นมาของพื้นที่นี้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังเป็น “เหมือง” เก่า 1 ซึ่งมีการดำเนินการขุดและตัก “หน้าดินไปขาย” 1 แม้จะมีข้อมูลบางส่วนระบุว่าเป็น “เหมืองพลอย” 6 หรือ “บ่อทราย” 5 แต่ข้อสรุปที่ชัดเจนร่วมกันคือ ต้นกำเนิดของสถานที่นี้มาจากการขุดเจาะเชิงอุตสาหกรรม การที่จันทบุรีเป็นเมืองแห่งอัญมณี อาจทำให้คนในพื้นที่เรียกเหมืองลักษณะนี้ว่า “เหมืองพลอย” ตามความคุ้นชิน แต่ผลลัพธ์จากการขุดดินและทราย 1 ได้ทิ้งร่องรอยบาดแผลไว้บนผืนดิน กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่และภูเขาหินที่มีรูปทรงแปลกตาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน 1
C. ปริศนาแห่งสีมรกต: วิทยาศาสตร์เบื้องหลังความงาม
จุดเด่นที่ดึงดูดสายตาที่สุดของแกรนด์แคนยอนแห่งนี้ คือสีของน้ำในแอ่งที่เป็น “สีฟ้าอมเขียว” หรือ “สีเขียวมรกต” สดใส 3
ปรากฏการณ์นี้สามารถอธิบายได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ เมื่อเหมืองถูกทิ้งร้าง แอ่งที่เกิดจากการขุดเจาะได้กลายเป็นแหล่งรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาขังตัว 6 น้ำฝนเหล่านี้ได้ทำหน้าที่ชะล้าง “แร่ธาตุ” หลากหลายชนิดที่อยู่ในชั้นหินและดินของเหมืองเก่า 3 เมื่อแร่ธาตุเหล่านี้ปนเปื้อนและตกตะกอนอยู่ในน้ำ เมื่อแสงแดดส่องกระทบผืนน้ำในมุมที่เหมาะสม จึงเกิดการสะท้อนแสงที่ทำให้เรามองเห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกตอันงดงาม
กล่าวได้ว่า ความงามที่เราเห็นในวันนี้ คือ “ความงามโดยบังเอิญ” (Accidental Beauty) ที่เกิดจากผลลัพธ์โดยตรงของกระบวนการทางอุตสาหกรรม (การขุดเจาะ) ผสมผสานกับกระบวนการทางธรรมชาติ (น้ำฝนและการตกตะกอน)
II. เจาะลึกจุดเด่น: สิ่งที่รอต้อนรับนักเดินทาง ณ แกรนด์แคนยอน จันท์
A. ไฮไลท์ทางทัศนียภาพ: องค์ประกอบแห่งภาพถ่าย
จุดดึงดูดหลักของแกรนด์แคนยอน จันทบุรี คือองค์ประกอบทางทัศนียภาพที่สมบูรณ์แบบ ไฮไลท์สำคัญคือภาพของ “โขดหินใหญ่ตั้งตระหง่านกลางน้ำสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋ว” 3 ซึ่งให้ความรู้สึกราวกับเป็นภาพวาด หรือทิวทัศน์ในต่างประเทศ 4
บรรยากาศโดยรอบยังคงเปี่ยมไปด้วยความเป็นธรรมชาติ เมื่อไปถึง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คืออากาศที่บริสุทธิ์ 3 และลมเย็นที่พัดโชย 3 เสน่ห์ที่สำคัญที่สุดคือ “ความเงียบสงบ” 6 เนื่องจากยังเป็นสถานที่ที่คนไม่เยอะ 6 ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกเหมือนได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง 3
B. กิจกรรมที่ต้องทำ (และ “ห้าม” ทำ)
กิจกรรมหลัก: การถ่ายภาพ (Photography)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่นี่คือ “โลเคชั่นถ่ายรูปสุดว้าว” 5 และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายถ่ายรูป 3
- มุมยอดนิยม: มุมที่ต้องถ่ายคือการจัดองค์ประกอบให้เห็นเงาสะท้อนของโขดหินในผืนน้ำ 3 ซึ่งจะให้ภาพที่ดูเหมือนกระจกธรรมชาติ
- เทคนิคการถ่ายภาพ:
- ช่วงเวลา: แนะนำให้มาในช่วงเช้าตรู่ หรือ ช่วงเย็น 3 เนื่องจากแสงจะสวยที่สุด 3 และอากาศไม่ร้อนจนเกินไป 9
- การแต่งกาย: แนะนำให้แต่งตัวเท่ๆ 4 เพื่อสร้างคอนทราสต์กับภูมิทัศน์ที่บางมุมอาจดูคล้าย “ดาวอังคาร” 6
- การใช้โดรน: สำหรับผู้ที่มีโดรน การบินโดรนจะทำให้ได้ภาพมุมสูงที่สวยงามแปลกตา และเห็นภาพรวมของเหมืองได้ชัดเจนที่สุด 3
กิจกรรมรอง: การพักผ่อน (Leisure)
ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมานั่งชิล, ปิกนิกเล็กๆ 3 หรือเพียงแค่มานั่งซึมซับความงามของธรรมชาติในความเงียบ 3
กิจกรรมที่ “ห้าม” ทำ: การลงเล่นน้ำ (Swimming)
นี่คือคำเตือนที่สำคัญที่สุด แม้ว่าน้ำสีเขียวมรกตจะดูใสสะอาดและ “น่าเล่นมาก” 6 แต่ข้อมูลเตือนภัยจากนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ระบุชัดเจนว่า “ไม่ควรลงเล่นน้ำ” 5
เหตุผลสำคัญคือ “น้ำลึกมากกว่าที่มองเห็น” 5 เนื่องจากที่นี่คือบ่อเหมืองเก่าที่มีการขุดเจาะในแนวดิ่ง ความเสี่ยงจึงมีสองเท่า:
- ความเสี่ยงทางกายภาพ: ความลึกของบ่อที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งอันตรายอย่างยิ่งต่อการจมน้ำ
- ความเสี่ยงทางเคมี: ดังที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า “น้ำไม่มีสารอะไรเหรอ?” 5 เนื่องจากน้ำขังอยู่ในเหมืองแร่ 5 จึงไม่สามารถทราบได้ว่าคุณภาพน้ำปลอดภัยหรือไม่ หรือมีการปนเปื้อนของแร่ธาตุหนักที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังหรือไม่
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด รายงานนี้จึงต้องเน้นย้ำว่า “ห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด”
C. ผลกระทบตามฤดูกาล (Seasonal Advisory)
การวางแผนเดินทางมาที่นี่ควรคำนึงถึงฤดูกาลเป็นอย่างยิ่ง:
- ฤดูฝน (ไม่แนะนำ): เป็นช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยง น้ำฝนที่ตกลงมาอาจทำให้น้ำในแอ่งขึ้นสูง 10 จน “ตัดถนน” หรือท่วมทางเดิน ทำให้ไม่สามารถเดินเข้าไปยังจุดชมวิวหลักด้านในได้ 11 นอกจากนี้ น้ำที่ท่วมสูงยังทำให้การแยกแยะขอบบ่อที่ปลอดภัยเป็นไปได้ยาก 9
- ฤดูร้อน (ต้องเตรียมตัว): เนื่องจากเป็นพื้นที่เหมืองเก่าที่โล่งแจ้ง ไม่มีร่มไม้ใหญ่ ผู้ที่มาเยือนในช่วงกลางวันของฤดูร้อนจะพบกับอากาศที่ “ร้อนมาก ๆ” 5
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: คือช่วงฤดูหนาวและต้นฤดูร้อน (ประมาณเดือนพฤศจิกายน ถึง เมษายน) 6 ซึ่งสภาพอากาศจะสดใสและไม่ร้อนจนเกินไป
III. 8 ประสบการณ์จากผู้มาเยือน: เสียงสะท้อนจริงจากโลกโซเชียล
จากการสังเคราะห์ข้อมูลรีวิวจากผู้เคยไปเยือน สามารถสรุปประสบการณ์ที่แตกต่างกันได้ 8 รูปแบบดังนี้:
- รีวิวที่ 1: The Photographer (รางวัลของนักล่าแสง)”มันสวยมาก จึ้งมาก! 12 วิวอลังการ 4 คุ้มค่าที่ตามหา แสงเช้า/เย็นตกกระทบผิวน้ำเหมือนมีคริสตัล 3 มุมสะท้อนน้ำคือที่สุด 3 ไม่ว่าจะมุมไหนก็ปัง ได้รูปกลับไปอวดเพื่อนแน่นอน 3″
- รีวิวที่ 2: The Adventurous Driver (บททดสอบการขับขี่)”ทางเข้าหาค่อนข้างยาก 2 ต้องสังเกตซอยเล็กๆ ข้างร้านส้มตำ 8 พอเลี้ยวเข้าไปทางเป็นดินลูกรัง 8 ถนนแคบมาก รถสวนกันไม่ได้เด็ดขาด 8 ไหล่ทางด้านซ้ายเป็นผา หวาดเสียวมาก 8 คนขับต้องมีสติ”
- รีวิวที่ 3: The Safety-Conscious (คำเตือนจากผู้ห่วงใย)”สวยจริง แต่ที่นี่ไม่มีคนดูแล 6 ไม่มีไฟ 6 ห้ามไปตอนเย็นหรือค่ำเด็ดขาด 6 มันอันตราย 6 พื้นดินอาจลาดชันและลื่น 5 และที่สำคัญ น้ำลึกมาก 5 อย่าหาทำลงเล่นน้ำเด็ดขาด”
- รีวิวที่ 4: The Underwhelmed (นักท่องเที่ยวผู้คาดหวัง)”ไม่รู้ว่าใครตั้งชื่อ 10 ขับรถเข้ามาลำบาก พอมาถึงก็งงว่า ‘นี่เหรอแกรนด์แคนยอน?’ 10 มันไม่มีอะไรเลยนอกจากวิวให้ถ่ายรูป 10 ที่จอดรถก็ไม่สะดวก ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็กลับแล้ว 10″
- รีวิวที่ 5: The Peace-Seeker (โอเอซิสแห่งความสงบ)”เสน่ห์ของที่นี่คือความสงบ 3 คนไม่เยอะเลย 6 เหมือนหลุดมาอีกโลกหนึ่ง 3 เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวาย 6 และมาสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์จริงๆ 12″
- รีวิวที่ 6: The Local Insider (คนรู้เส้นทาง)”จริงๆ มันเป็นที่ส่วนบุคคลนะ 2 คนแถวนี้รู้จักกันเพราะเป็นเหมืองเก่า 6 ถ้าจะมา ให้ปักหมุดที่ ‘เทศบาลตำบลหนองบัว’ แล้วขับเลยมาที่ ‘ร้านส้มตำเจ๊เก๋อ’ 8 ซอยทางเข้าอยู่แถวนั้นแหละ”
- รีวิวที่ 7: The Unlucky Visitor (ผู้มาผิดฤดู)”ตอนเราไปเป็นหน้าฝน น้ำท่วมสูงในแอ่งจนวิวไม่สวยเลย 10 เดินเข้าไปข้างในไม่ได้ด้วย 11″ / “อีกเสียงคือหน้าร้อน ร้อนแบบตะโกน 5 ไม่มีที่หลบแดดเลย เตรียมร่ม พัดลมพกพามาด้วย”
- รีวิวที่ 8: The Curious Scientist (นักสำรวจผู้อยากรู้)”น้ำสีเขียวจริงๆ ไม่ได้แต่งภาพ 5 สวยมาก แต่อดสงสัยไม่ได้ว่ามันคือแร่ธาตุอะไร 5 แล้วมันปลอดภัยมั้ยถ้าสัมผัส? 5 ยังหาคำตอบไม่ได้”
IV. คู่มือการเข้าชมฉบับปฏิบัติ: ที่ตั้ง การติดต่อ และข้อควรระวังสูงสุด
A. ที่อยู่และพิกัดที่ตั้ง (Location & Coordinates)
- ที่อยู่: ตั้งอยู่ในเขต ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี 1
- พิกัด GPS: สถานที่นี้ไม่มีพิกัด GPS ที่เป็นทางการ หรือปักหมุดที่ชัดเจนในระบบแผนที่ แนะนำให้ใช้ Google Maps ค้นหาชื่อ “แกรนด์แคนยอน จันทบุรี (ของแท้)” หรือใช้การนำทางไปยัง “ร้านส้มตำเจ๊เก๋อ หนองบัว” 13 เป็นหลัก
B. เทคนิคการค้นหา: “ปฏิบัติการตามหาส้มตำเจ๊เก๋อ”
เนื่องจากทางเข้าไม่มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน 9 การเดินทางไปยังสถานที่นี้จึงจำเป็นต้องใช้ “ร้านส้มตำเจ๊เก๋อ” (หรือที่เรียกกันหลายชื่อเช่น เจ๊โก 9, ยายเก๋อ 8, เจ๊เก๋ 13) เป็นจุดสังเกตหลัก
- เส้นทางการขับรถ 8:
- เริ่มต้นจากตัวเมืองจันท์ หรือ ห้างโรบินสัน จันทบุรี 8
- มุ่งหน้าไปยัง เทศบาลตำบลหนองบัว 8 (ใกล้กับชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว)
- ขับรถตรงไปจนผ่าน สำนักงานเทศบาลตำบลหนองบัว 8
- ขับต่อไปอีกเล็กน้อย จะผ่าน “ร้านส้มตำเจ๊เก๋อ” (หรือ ยายเก๋อ/เจ๊โก) 8
- หลังจากผ่านร้านส้มตำ ให้ชะลอรถและสังเกตทางด้านขวา จะพบ “ซอยเล็กๆ ที่มีป้ายรัฐสีเขียว” 8
- เลี้ยวขวาเข้าซอย (ช่วงแรกเป็นทางคอนกรีต) ขับเข้าไปจนสุดทางคอนกรีตจะเจอทางแยก
- ณ ทางแยก ให้ “เลี้ยวซ้ายไปทางดินลูกรัง” 8
- ขับต่อไปตามทางดินลูกรัง (ซึ่งเป็นจุดที่ต้องใช้ความระมัดระวังสูง) ก็จะถึงจุดหมาย
C. การติดต่อ, ค่าเข้าชม, และเวลาทำการ (Operations)
- การติดต่อ (เบอร์โทร): ผู้ใช้มักค้นหา “เบอร์โทร” ของสถานที่นี้ แต่ข้อมูลยืนยันว่า “ไม่มีเบอร์โทรติดต่อ” เนื่องจากที่นี่เป็น “ที่ส่วนบุคคล” 2 และ “ไม่มีคนดูแล” 5 จึงไม่มีหน่วยงานหรือผู้ติดต่ออย่างเป็นทางการ
- ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี (Admission is free) 9
- เวลาทำการ:
- ไม่มีการกำหนดเวลาเปิด-ปิดอย่างเป็นทางการ 9
- คำแนะนำ: ควรไปในช่วงที่มีแสงสว่างเพียงพอ คือ ช่วงเช้า หรือ บ่ายแก่ๆ 9
- คำเตือน: “ไม่แนะนำให้ไปเย็นๆ” หรือช่วงใกล้ค่ำ 6 เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมดไม่มีไฟส่องสว่าง 6 และอาจเกิดอันตรายได้
D. คำเตือนด้านความปลอดภัยสูงสุด (Critical Safety Advisory)
การเดินทางไปแกรนด์แคนยอน จันทบุรี มีความเสี่ยง 3 ด้านที่นักท่องเที่ยวต้องประเมินและยอมรับก่อนการเดินทาง:
- ความเสี่ยงในการเข้าถึง (Access Risk): ถนนช่วงสุดท้ายที่เป็นดินลูกรัง 8 มีสภาพ “แคบมาก” 8 จนรถยนต์ไม่สามารถสวนกันได้ 8 ไหล่ทางด้านหนึ่งมีความลาดชันอันตราย 8 และพื้นที่จอดรถไม่สะดวกสบาย 10
- ความเสี่ยงในพื้นที่ (Site Risk): สถานที่นี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย 5 ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และไม่มีไฟส่องสว่าง 6 พื้นดินรอบบ่ออาจมีความลาดชันและลื่น 5
- ความเสี่ยงทางน้ำ (Water Risk): ดังที่ย้ำไปแล้ว น้ำในบ่อ “ลึกมาก” 5 และคุณภาพน้ำไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด ห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด 5
V. ที่พักใกล้เคียง: การเลือกฐานที่มั่นใน ต.หนองบัว และ อ.เมือง
A. การวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์: ใกล้ (Proximity) vs. สะดวก (Amenity)
การเลือกที่พักมี 2 กลยุทธ์หลักที่นักท่องเที่ยวต้องตัดสินใจ:
- กลยุทธ์ที่ 1: เน้นความใกล้ (Proximity)เลือกที่พักใน ตำบลหนองบัว 14 ข้อดีคืออยู่ใกล้แกรนด์แคนยอนที่สุด 14 สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายในเวลาเช้าตรู่ และยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ชุมชนขนมแปลก ริมคลองหนองบัว 15 แต่ข้อเสียคือมีตัวเลือกที่พักน้อยกว่า 17 และส่วนใหญ่เป็นสไตล์โลคอล เช่น เกสต์เฮาส์ หรือรีสอร์ทขนาดเล็ก 14
- กลยุทธ์ที่ 2: เน้นความสะดวก (Amenity)เลือกที่พักใน อำเภอเมืองจันทบุรี หรือ อำเภอแหลมสิงห์ 16 ข้อดีคือมีตัวเลือกโรงแรมขนาดใหญ่ 18 มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน (เช่น สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส) 18 และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วไป แต่ข้อเสียคือต้องใช้เวลาขับรถประมาณ 8-9 กิโลเมตร เพื่อมายังแกรนด์แคนยอน 18
B. ตารางเปรียบเทียบที่พักยอดนิยม
ตารางนี้สังเคราะห์ข้อมูลที่พักในรัศมีใกล้เคียง เพื่อช่วยในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์:
| ชื่อที่พัก (Name) | ที่ตั้ง (Location) | ระยะทางโดยประมาณ | ประเภท (Type) | จุดเด่น (Key Feature) | อ้างอิง |
| Baan Rim Ao (บ้านริมอ่าว) | ต.หนองบัว | 4.8 กม. | โรงแรม/รีสอร์ท | ใกล้, อนุญาตสัตว์เลี้ยง, รีวิวดี (8.8/10) | 14 |
| Chan De Bua (จันท์ เดอ บัว) | ต.หนองบัว | N/A (อยู่ใน ต.หนองบัว) | เกสต์เฮาส์ | อยู่ใน ต.หนองบัว, รีวิวดีมาก (9.5/10) | 14 |
| Meena Resort (มีนา รีสอร์ท) | ต.หนองบัว | N/A (อยู่ใน ต.หนองบัว) | รีสอร์ท | อยู่ใน ต.หนองบัว | 14 |
| One Chan Farmstay | แหลมสิงห์ | 2.7 กม. | โฮมสเตย์ | ใกล้มาก, บรรยากาศฟาร์มสเตย์ | 18 |
| The Motifs Eco Hotel | อ.เมือง | 8.8 กม. | โรงแรม/รีสอร์ท | ยอดนิยม (198 รีวิว), สะดวกสบาย | 16 |
| Halff Hotel | อ.เมือง | 8.9 กม. | โรงแรม/รีสอร์ท | สิ่งอำนวยความสะดวกครบ (สระว่ายน้ำ) | 18 |
| Phuengluang Riverside | อ.เมือง | 8.3 กม. | โรงแรม/รีสอร์ท | ริมน้ำ, มีฟิตเนส | 18 |
VI. คู่มือการเดินทางจากกรุงเทพมหานคร
A. การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว (วิธีที่แนะนำที่สุด)
การขับรถยนต์ส่วนตัว หรือการเช่ารถตู้พร้อมคนขับ 20 เป็นวิธีการเดินทางที่แนะนำที่สุด เนื่องจากความท้าทายในการเดินทาง “ช่วงสุดท้าย” (Last Mile) ไปยังตัวแคนยอน ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยรถสาธารณะ
- เส้นทางที่ 1 (สายหลัก):ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) 22 ผ่านบางนา, ชลบุรี, พัทยา, บ้านฉาง, ระยอง และเข้าสู่จันทบุรี ระยะทางรวมประมาณ 291 กิโลเมตร 22
- เส้นทางที่ 2 (สายเลี่ยงเมือง/เร็วขึ้น):ใช้ทางหลวงหมายเลข 36 22 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพฯ (ทางหลวงหมายเลข 3) แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาสพัทยา-ระยอง) ที่อำเภอบางละมุง (ชลบุรี) ซึ่งจะช่วยเลี่ยงการจราจรในตัวเมืองพัทยาและระยอง มุ่งหน้าสู่จันทบุรี ระยะทางประมาณ 254 กิโลเมตร 22
- ระยะเวลาเดินทาง: ประมาณ 4 ชั่วโมง 23
B. การเดินทางโดยรถโดยสารสาธารณะ
- จุดขึ้นรถ (กรุงเทพฯ):
- สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย) 24
- สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) 24
- ผู้ให้บริการ: มีทั้งรถทัวร์ (เช่น เชิดชัยทัวร์ 23) และรถตู้/มินิบัส (เช่น เกาะช้างกรุงเทพเดินรถ 23)
- จุดลงรถ (จันทบุรี): สถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.จันทบุรี 23
- ปัญหาช่วงสุดท้าย (The Last Mile Problem): เมื่อถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.จันทบุรี นักท่องเที่ยวจะต้องหาวิธีเดินทางต่อไปยัง ตำบลหนองบัว ซึ่งไม่มีรถสาธารณะประจำทางเข้าถึงโดยตรง จำเป็นต้องเหมารถสองแถว, เรียกใช้บริการแท็กซี่ท้องถิ่น, หรือเช่ารถจักรยานยนต์ในตัวเมือง เพื่อเดินทางต่อไปยังแกรนด์แคนยอน
VII. คู่มือการเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ภาคอีสาน)
A. การวิเคราะห์กลยุทธ์การเดินทาง: “โคราช” คือจุดเชื่อมต่อหลัก
การเดินทางจากภาคอีสานมายังจันทบุรี มีจุดยุทธศาสตร์หลักที่สำคัญที่สุดคือ จังหวัดนครราชสีมา (โคราช) 26
สำหรับจังหวัดที่อยู่ลึกเข้าไป เช่น ขอนแก่น 29 หรือ อุบลราชธานี 30 การเดินทางโดยตรงมักไม่มีบริการรถโดยสารประจำทาง และการใช้บริการแท็กซี่เหมาจะมีราคาสูงมาก 29 ดังนั้น กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือ:
- เดินทางมาที่โคราชก่อน แล้วจึงต่อรถไปจันทบุรี
- เดินทางเข้ากรุงเทพฯ (หมอชิต) แล้วต่อรถไปจันทบุรี
B. การเดินทางจาก นครราชสีมา (โคราช)
รถยนต์ส่วนตัว (เส้นทางแนะนำ):
- เส้นทาง: จากโคราช ใช้เส้นทางมุ่งหน้า อ.ปักธงชัย -> อ.กบินทร์บุรี (จ.ปราจีนบุรี) -> อ.สระแก้ว -> ใช้ ทางหลวงหมายเลข 317 (สระแก้ว-จันทบุรี) ยิงยาวจนถึงตัวเมืองจันทบุรี 27
- วิเคราะห์เส้นทาง: แหล่งข้อมูลยืนยันว่านี่คือเส้นทางที่สะดวก 27, ไม่อ้อม 27 และถนนส่วนใหญ่เป็นสี่เลนเกือบตลอดเส้นทาง (ยกเว้นช่วงทางหลวง 317 บางส่วนจากวังน้ำเย็นถึงโป่งน้ำร้อน) 27
รถโดยสารประจำทาง:
- มีบริการรถทัวร์โดยสารปรับอากาศสายตรง (เช่น เชิดชัยทัวร์ 33) วิ่งระหว่าง “นครราชสีมา-จันทบุรี” 26
- จุดขึ้นรถ: สถานีขนส่งแห่งใหม่ (บขส. 2) นครราชสีมา 26
- ระยะเวลาเดินทาง: คาดการณ์ประมาณ 6-7 ชั่วโมง 34
C. การเดินทางจากจังหวัดอีสานอื่นๆ (ขอนแก่น, อุบลราชธานี)
- ทางเลือกที่ 1 (ต่อรถที่โคราช): เดินทาง (ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือรถบัส) มายัง สถานีขนส่ง บขส. 2 นครราชสีมา แล้วต่อรถทัวร์สาย นครราชสีมา-จันทบุรี 26
- ทางเลือกที่ 2 (ต่อรถที่กรุงเทพฯ): เดินทาง (รถยนต์, รถบัส, รถไฟ, หรือเครื่องบิน 35) เข้ามายังกรุงเทพฯ (สถานีขนส่งหมอชิต หรือ เอกมัย) แล้วต่อรถโดยสารไปจันทบุรี 24
- ทางเลือกที่ 3 (แท็กซี่/เหมา): มีบริการแท็กซี่เหมาข้ามจังหวัดให้บริการ 29 แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก และไม่แนะนำสำหรับการท่องเที่ยวทั่วไป



แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : แกรนด์แคนยอน จันทบุรี : คู่มือสำรวจเหมืองเก่าลับ สู่จุดชมวิวสุดอลังการ