เปิดโลกอ่างเก็บน้ำปราณบุรี: สองขั้วความงามแห่งประจวบคีรีขันธ์ จากมรดกแผ่นดินสู่สวิตเซอร์แลนด์แดนปราณฯ
I. เปิดโลกอ่างเก็บน้ำปราณบุรี: สองขั้วความงามแห่งประจวบคีรีขันธ์
A. บทนำ: ภาพจำที่เปลี่ยนไป
ในยุคที่การท่องเที่ยวถูกขับเคลื่อนด้วยภาพลักษณ์อันงดงามบนโซเชียลมีเดีย “อ่างเก็บน้ำปราณบุรี” ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ร้อนแรงที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ภาพจำของทุ่งหญ้าสีเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาที่ทอดตัวริมผืนน้ำกว้างใหญ่ ภายใต้การโอบล้อมของหุบเขา 1 และฝูงแพะแกะนับร้อยที่กำลังเล็มหญ้าอย่างอิสระ 3 ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศที่ถูกขนานนามว่า “สวิตเซอร์แลนด์แดนปราณฯ” 3
B. ความสำคัญที่แท้จริง: มากกว่าสถานที่ท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังทัศนียภาพอันตระการตานี้ อ่างเก็บน้ำปราณบุรี หรือ “เขื่อนปราณบุรี” ถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญในระดับยุทธศาสตร์ของชาติ ที่นี่คือ “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” 4 ซึ่งเป็นโครงการชลประทานขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรอย่างยั่งยืน 5
ภารกิจหลักของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ คือการเป็นแหล่งน้ำต้นทุนขนาดมหึมา ด้วยความจุอ่างสูงถึง 391 ล้านลูกบาศก์เมตร 4 (และศักยภาพสูงสุด 490 ล้านลูกบาศก์เมตร 5) เพื่อหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานกว่า 212,175 ไร่ 5 ทั้งในอำเภอปราณบุรีและอำเภอกุยบุรี 6 นอกจากนี้ ยังทำหน้าที่ผันน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชน รวมถึงเป็นแหล่งน้ำดิบสำคัญที่ส่งไปสนับสนุนระบบประปาในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน 5 และมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายเขื่อนอีกด้วย 5 การมาเยือนอ่างเก็บน้ำปราณบุรีจึงไม่ใช่เพียงการมาชมทิวทัศน์ แต่คือการมาสัมผัสหนึ่งในมรดกแห่งการพัฒนาแหล่งน้ำที่สำคัญของไทย
C. ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญที่สุด: “เที่ยวเขื่อนปราณบุรี” ต้องเลือกว่าจะไปที่ไหน
ประเด็นสำคัญที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ประสบปัญหาและเกิดความสับสน คือ “อ่างเก็บน้ำปราณบุรี” ที่เห็นในสื่อสังคมออนไลน์และสถานที่ทำการของเขื่อนนั้น แท้จริงแล้วคือสถานที่ 2 แห่งที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิง:
- จุดที่ 1: “สันเขื่อนปราณบุรี” (The Dam Crest)นี่คือจุดชมวิวอย่างเป็นทางการบนตัวเขื่อนดินขนาดมหึมา 7 เป็นที่ตั้งของที่ทำการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี 8 จุดนี้จะมอบทัศนียภาพแบบพาโนรามาของผืนน้ำกว้างใหญ่และโครงสร้างเขื่อนที่ยิ่งใหญ่ 9
- จุดที่ 2: “จับแพะชนแกะ” หรือ “ดูแกะเขื่อนปราณบุรี” (The Sheep Spot)นี่คือสถานที่ยอดนิยมในโซเชียลมีเดีย 1 ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้าน (แพะและแกะ) ที่ตั้งอยู่บริเวณ ท้ายอ่างเก็บน้ำ 1 ให้ทัศนียภาพแบบทุ่งหญ้าริมน้ำและภูเขาที่คล้ายต่างประเทศ 3
ความสับสนมักเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวตั้งใจไปดูฝูงแกะ แต่ใช้ GPS ค้นหาคำว่า “อ่างเก็บน้ำปราณบุรี” ซึ่งระบบมักจะนำทางไปยัง “สันเขื่อน” (จุดที่ 1) ทำให้ไม่พบกับทุ่งหญ้าและฝูงแกะตามที่คาดหวัง 2 คู่มือฉบับนี้จะให้ข้อมูลและเส้นทางการเดินทางที่ชัดเจนสำหรับ ทั้งสองแห่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างถูกต้อง
II. จุดหมายที่ 1: สันเขื่อนปราณบุรี (The Dam Crest) – ชมความยิ่งใหญ่ของพลังแห่งสายน้ำ
A. สัมผัสความยิ่งใหญ่บนสันเขื่อน
จุดแรกที่ควรมาเยือนเพื่อทำความรู้จักกับอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ คือบริเวณ “สันเขื่อนปราณบุรี” 7 ตัวเขื่อนนี้เป็นเขื่อนดินที่สร้างปิดกั้นแม่น้ำปราณบุรี 6 มีขนาดที่น่าทึ่ง โดยสันเขื่อนมีความยาวถึง 1,500 เมตร กว้าง 8 เมตร และมีความสูง 42 เมตร 6
ความพิเศษของที่นี่คือ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถยนต์ส่วนตัวขึ้นไปจอดและเดินเล่นบนสันเขื่อนได้เลย 7 ทำให้สามารถสัมผัสกับความโอ่อ่ากว้างขวาง และชมทัศนียภาพแบบ 360 องศา 7 ด้านหนึ่งคือผืนน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่โอบล้อมด้วยทิวเขาเขียวขจี 7 ในช่วงที่น้ำลด อาจมองเห็นเกาะแก่งที่โผล่พ้นน้ำ 7 ส่วนอีกด้านคือพื้นที่ท้ายเขื่อนและระบบชลประทาน
B. กิจกรรมและช่วงเวลาที่แนะนำ
สันเขื่อนปราณบุรีเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบทัศนียภาพแบบพาโนรามา ต้องการความเงียบสงบ และชื่นชมความยิ่งใหญ่ของโครงการชลประทาน
- ช่วงเวลาที่แนะนำ: ควรมาในช่วงเช้าตรู่ หรือในช่วงเย็นประมาณ 16:00 น. เป็นต้นไป 7 เนื่องจากแดดจะไม่ร้อนจัด และมีลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา 7
- ชมพระอาทิตย์ตก: ที่นี่ถือเป็นจุดชมวิวยามพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาที่งดงามและน่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่ง 9
- กิจกรรมอื่นๆ: ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งน้ำ ที่นี่ยังเป็นสถานที่ตกปลายอดนิยมของคนในพื้นที่อีกด้วย 9
- เวลาทำการ: โดยทั่วไปสามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ 08:00 – 17:00 น. 9
III. จุดหมายที่ 2: “จับแพะชนแกะ” ณ ท้ายเขื่อน – สวิตเซอร์แลนด์แดนปราณฯ ที่ต้องไปให้ถึง
นี่คือจุดหมายปลายทางที่สร้างกระแสความนิยมให้กับอ่างเก็บน้ำปราณบุรีในปัจจุบัน 1 และเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ตั้งใจมาเพื่อถ่ายภาพ
A. ที่มาของสถานที่ยอดฮิต
พื้นที่บริเวณนี้ไม่ได้อยู่ในความดูแลของโครงการเขื่อนโดยตรง แต่เป็นพื้นที่ของชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำ 1 ไฮไลท์สำคัญคือฝูง “แพะ” และ “แกะ” จำนวนมาก ที่ชาวบ้านจะปล่อยออกมาให้เล็มหญ้าบนทุ่งหญ้าสีเขียวที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติริมขอบอ่างเก็บน้ำ 1
บรรยากาศโดยรวมนั้นงดงามราวกับภาพวาด ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัวของทุ่งหญ้าสีเขียว ผืนน้ำสีคราม และแนวภูเขาที่ซับซ้อนเป็นฉากหลัง ทำให้ทิวทัศน์คล้ายกับในต่างประเทศ 1
B. กิจกรรมและค่าใช้จ่าย
- กิจกรรมหลัก: คือการเดินเล่น ถ่ายรูปกับฝูงแพะและแกะที่เชื่องและคุ้นเคยกับคน 1
- ค่าเข้าชม: ฟรี ไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ 1
- การให้อาหาร: นักท่องเที่ยวสามารถซื้ออาหาร (เช่น กิ่งกระถิน) จากชาวบ้านในราคาเพียงกำละ 20 บาท 1 เพื่อป้อนให้กับน้องๆ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะดึงดูดให้ฝูงแพะแกะเข้ามารุมล้อมเพื่อถ่ายภาพสวยๆ 1
- สิ่งอำนวยความสะดวก: บริเวณนั้นมีร้านค้าเล็กๆ ของชาวบ้าน เช่น ร้านลูกชิ้นและร้านขายเครื่องดื่ม เปิดให้บริการ 3
C. ช่วงเวลาทอง (Golden Hour)
ข้อควรทราบที่สำคัญที่สุดสำหรับการมาเยือนจุด “จับแพะชนแกะ” คือเรื่องของเวลา นักท่องเที่ยว จำเป็นต้องมาในช่วงเย็นเท่านั้น
- เวลาที่แนะนำ: 16:00 – 18:00 น. 1
- เหตุผล:
- แสง: เป็นช่วงที่แสงแดดอ่อนลง ให้แสงสีทองที่สวยงามที่สุดสำหรับการถ่ายภาพ (“แสงสวย ถ่ายรูปขึ้นสุด ๆ”) 1
- ฝูงสัตว์: ชาวบ้านจะต้อนฝูงแพะแกะออกมาเล็มหญ้าในช่วงเวลานี้ และจะเริ่มต้อนสัตว์กลับเข้าคอกประมาณ 17:00 – 18:00 น. 1 หากมานอกเหนือจากเวลานี้ อาจไม่พบฝูงแพะแกะ
D. ความท้าทายของ “กิโลเมตรสุดท้าย” (The Final Mile Challenge)
นี่คือคำเตือนที่สำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ตั้งใจจะไปจุดชมแกะ การเดินทางไปยังจุดนี้มีความท้าทายเฉพาะตัว:
- ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัว: สถานที่นี้อยู่ลึกเข้าไปบริเวณท้ายเขื่อน 1 และไม่มีรถสาธารณะเข้าถึง จำเป็นต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น 1
- เส้นทางถนนดินแดง: หลังจากเลี้ยวออกจากถนนลาดยางหลัก เส้นทางช่วงสุดท้ายจะเป็น “ถนนดินแดงทั้งหมด” 7
- สภาพถนนขรุขระ: ถนนดินแดงนี้มีสภาพ “ขรุขระมาก” และเป็นหลุมเป็นบ่อในบางช่วง 7 ผู้ขับขี่ต้องใช้ความระมัดระวังและขับช้าๆ 7 (รถเก๋งทั่วไปสามารถไปได้ แต่ต้องขับอย่างระมัดระวัง)
- สัญญาณโทรศัพท์ขาดหาย: ในบางช่วงของเส้นทางดินแดงนี้ “ไม่มีสัญญาณมือถือ” 11 ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญหากต้องพึ่งพา GPS
- การนำทาง: ต้องใช้คำค้นหา GPS ที่เฉพาะเจาะจง (ดูหัวข้อ V) และเมื่อเข้าสู่ถนนดินแดง ควรสังเกต “ป้ายจับแพะชนแกะ” ขนาดเล็กที่ชาวบ้านทำไว้และติดบอกทางเป็นระยะ 7
IV. คู่มือการเดินทางฉบับสมบูรณ์ (The Definitive Travel Plan)
บทความนี้จะให้ข้อมูลการเดินทางที่ครอบคลุมตามคำขอ ทั้งจากกรุงเทพมหานครและจากภาคใต้
A. การเดินทางจากกรุงเทพมหานคร (โดยรถยนต์ส่วนตัว)
- ภาพรวม: ระยะทางประมาณ 250-260 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 2
- เส้นทางหลัก:
- ใช้ถนนพระราม 2 (ทางหลวงหมายเลข 35) มุ่งหน้าลงใต้
- ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเชื่อมต่อเข้าสู่ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4)
- ขับผ่านจังหวัดเพชรบุรี, อำเภอชะอำ จนถึงทางแยกเลี่ยงเมือง (Bypass) หัวหิน-ปราณบุรี
- จุดตัดสินใจสำคัญ:
- ใช้เส้นทางเลี่ยงเมือง (ทางหลวงหมายเลข 37) 12 เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่นในตัวเมืองหัวหิน ขับตามป้าย “ปราณบุรี” หรือ “ประจวบคีรีขันธ์”
- เมื่อสิ้นสุดทางเลี่ยงเมืองที่แยกต่างระดับวังยาว 12 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเพชรเกษม (หมายเลข 4) อีกครั้ง มุ่งหน้า อ.ปราณบุรี
- จุดสังเกตเพื่อเลี้ยวเข้าเขื่อนปราณบุรี จะอยู่บริเวณ กม. ที่ 253 บนถนนเพชรเกษม 6 (หรือใช้ GPS ตามคำแนะนำในหัวข้อ V)
B. การเดินทางจากภาคใต้ (โดยรถยนต์ส่วนตัว)
- ภาพรวม: สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี หรือจังหวัดอื่นๆ ในภาคใต้
- เส้นทางหลัก:
- ใช้ถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าทิศเหนือ
- ขับผ่านจังหวัดชุมพร, อำเภอทับสะแก, อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอกุยบุรี
- จุดตัดสินใจสำคัญ:
- เมื่อขับเลยอำเภอกุยบุรีและใกล้เข้าสู่เขตอำเภอปราณบุรี ให้สังเกต “สี่แยกปราณบุรี” (จุดตัดกับถนนเลี่ยงเมือง)
- นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองปราณบุรี หรือขับตรงต่อไปบนถนนเพชรเกษม (สายเก่า) หรือใช้เส้นทางเลี่ยงเมือง (หมายเลข 37) 12 เพื่อไปยังจุดหมาย
- คำแนะนำ: เนื่องจากอ่างเก็บน้ำอยู่นอกตัวเมือง 6 แนะนำให้ยึดการนำทางด้วย GPS เป็นหลัก (ดูหัวข้อ V) โดยปักหมุดไปยังจุดหมายที่ต้องการ (สันเขื่อน หรือ จุดชมแกะ) ซึ่งทางเข้าจะแยกจากถนนสายหลัก (เพชรเกษม)
C. การประเมินสถานการณ์จริง: การเดินทางโดยขนส่งสาธารณะ
นี่คือการวิเคราะห์ตามความเป็นจริงสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว:
- ขั้นตอนที่ 1: การเดินทางสู่ปราณบุรี
- รถตู้/รถทัวร์: สามารถขึ้นรถได้จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ มาลงที่ “สี่แยกปราณบุรี” 13
- รถไฟ: สามารถใช้บริการรถไฟ (เช่น ขบวน 255 ธนบุรี-หลังสวน) 14 มาลงที่ “สถานีรถไฟปราณบุรี”
- ขั้นตอนที่ 2: อุปสรรค 20 กิโลเมตรสุดท้าย (The 20km Problem)
- จากข้อมูล อ่างเก็บน้ำปราณบุรีอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอปราณบุรี (ตัวเมือง) ประมาณ 20 กิโลเมตร 6
- ข้อเท็จจริง: ไม่มีรถโดยสารประจำทาง (รถสองแถว) วิ่งในเส้นทางนี้
- ทางออก: นักท่องเที่ยวจำเป็นต้อง “เช่าเหมา” รถจากตัวเมืองปราณบุรีเท่านั้น ตัวเลือกได้แก่ การเหมารถสองแถวท้องถิ่น 15 หรือติดต่อบริการรถตู้เหมาวัน 15 ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและไม่สะดวกในการวางแผน
- คำแนะนำที่ดีที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Recommendation):สำหรับผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว วิธีการที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุด คือ:
- เดินทางมายัง อำเภอหัวหิน (ซึ่งมีรถสาธารณะถึงง่ายกว่า และมีตัวเลือกหลากหลายกว่า)
- เช่ารถยนต์ หรือ รถมอเตอร์ไซค์ จากตัวเมืองหัวหิน
- ขับรถจากหัวหินไปยังอ่างเก็บน้ำปราณบุรี ใช้เวลาประมาณ 40 นาที 2 วิธีนี้จะให้ความคล่องตัวสูงสุด สามารถแวะเที่ยวจุดอื่น และเดินทางไปยัง “จุดชมแกะ” ที่มีเส้นทางยากลำบากได้ด้วยตนเอง
V. คู่มือการนำทาง “กิโลเมตรสุดท้าย” (The Final Mile GPS Guide)
ความสำเร็จในการเดินทางไปยังจุดหมายที่ถูกต้อง ขึ้นอยู่กับการใช้คำค้นหา GPS ที่แม่นยำ
A. เส้นทางไป “สันเขื่อนปราณบุรี” (The Dam Crest)
- คำค้นหา GPS: “เขื่อนปราณบุรี” หรือ “โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี”
- ป้ายบอกทาง: สังเกตป้ายบอกทางทางการของกรมชลประทาน (สีน้ำเงิน-ขาว)
- สภาพถนน: ถนนลาดยางอย่างดี ขับง่าย สะดวกสบาย จนถึงที่ทำการและสันเขื่อน 7
B. เส้นทางไป “จับแพะชนแกะ” (The Sheep Spot)
- คำค้นหา GPS: “ดูแกะเขื่อนปราณบุรี” 1 หรือ “จับแพะชนแกะ” 1 (ข้อควรระวัง: ห้าม ค้นหาว่า “เขื่อนปราณบุรี”)
- ป้ายบอกทาง: สังเกตป้ายขนาดเล็กที่ชาวบ้านทำขึ้นเอง เขียนว่า “จับแพะชนแกะ” 7 ให้เลี้ยวตามป้ายนี้ 7
- สภาพถนน: ถนนลาดยางในช่วงแรก จากนั้นจะเข้าสู่ช่วง “ถนนดินแดง” ที่ขรุขระ 7
- คำเตือน: ขับช้าๆ 7 และแนะนำให้ดาวน์โหลดแผนที่แบบออฟไลน์ล่วงหน้า เนื่องจากสัญญาณ GPS อาจขาดหาย 11
VI. ข้อมูลสำคัญ: ที่อยู่ เบอร์โทร และการติดต่อ (The User’s Request)
ข้อมูลการติดต่อที่มีอยู่นั้นเป็นของหน่วยงานราชการที่ดูแลตัวเขื่อน (สันเขื่อน) ในขณะที่จุดชมแกะเป็นพื้นที่ของชาวบ้านและไม่มีข้อมูลติดต่อทางการที่ชัดเจน
การทำความเข้าใจข้อมูลในตารางนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยไขข้อข้องใจทั้งหมดเกี่ยวกับที่ตั้งของสถานที่ทั้งสองแห่ง
- ข้อเท็จจริงเชิงพื้นที่: จากข้อมูลพิกัดและที่อยู่ จะเห็นได้ว่า “สันเขื่อนปราณบุรี” (ที่ทำการ) ตั้งอยู่ในเขต ตำบลหนองตาแต้ม อำเภอปราณบุรี 6
- ข้อเท็จจริงเชิงพื้นที่ (ที่สำคัญ): ในขณะที่ “จุดชมแกะ” (จับแพะชนแกะ) ซึ่งเป็นที่นิยม แม้จะอยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำเดียวกัน แต่พิกัดที่ตั้งกลับอยู่ในเขต ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน 1
นี่คือสาเหตุหลักของความสับสนในการเดินทาง แม้จะเรียกรวมกันว่า “เขื่อนปราณบุรี” แต่ในทางปฏิบัติ สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั้งสองแห่ง อยู่ในเขตการปกครองคนละอำเภอ
ตารางที่ 1: สรุปข้อมูลการติดต่อและเยี่ยมชมอ่างเก็บน้ำปราณบุรี
| รายการ | จุดที่ 1: สันเขื่อนปราณบุรี (ทางการ) | จุดที่ 2: จับแพะชนแกะ (ท้ายเขื่อน) |
| ชื่อทางการ/สถานที่ | โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปราณบุรี 8 | จับแพะชนแกะ / ดูแกะเขื่อนปราณบุรี 1 |
| ที่อยู่ | 147 หมู่ 11, ต.หนองตาแต้ม, อ.ปราณบุรี, จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110 6 | พิกัด FQCC+9R, ต.หนองพลับ, อ.หัวหิน, จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110 1 |
| เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ | 032-622 384 8 | ไม่มีเบอร์โทรทางการ (เป็นพื้นที่ชาวบ้าน) 1 |
| เบอร์โทร (อื่นๆ) | 032-825 658 ถึง 59 (สำนักชลประทานที่ 14) 9 | – |
| อีเมล | dam_pran@hotmail.com 8 | – |
| เวลาทำการ | 08:00 – 17:00 น. (โดยประมาณ) 9 | 16:00 – 18:00 น. (ช่วงเวลาที่แนะนำที่สุด) 1 |
| ค่าเข้าชม | ฟรี | ฟรี (มีค่าอาหารสัตว์ 20 บาท) 1 |
VII. บทสรุปและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert’s Final Take)
อ่างเก็บน้ำปราณบุรีมอบประสบการณ์ “2 แบบ 2 สไตล์” ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในสถานที่เดียว ตั้งแต่ความยิ่งใหญ่ของโครงการหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 4 ไปจนถึงความงดงามราวภาพฝันของทุ่งหญ้ามีชีวิต 1
เพื่อให้การเดินทางสมบูรณ์แบบ มีข้อแนะนำสำคัญ 3 ประการ:
- เรื่องยานพาหนะ: “รถยนต์ส่วนตัว” คือทางเลือกที่ดีที่สุดและแทบจะเป็นภาคบังคับ 1 หากเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ วิธีที่ดีที่สุดคือการเช่ารถ (ยนต์หรือมอเตอร์ไซค์) จากหัวหิน 2
- เรื่องเวลา: วางแผนเวลาให้ถูกต้อง หากต้องการชมวิวบน “สันเขื่อน” สามารถไปได้ทั้งเช้าและเย็น 7 แต่หากตั้งใจไป “จับแพะชนแกะ” ต้องไปถึงที่นั่นในช่วงเวลา 16:00 – 18:00 น. เท่านั้น 1
- เรื่องเส้นทาง: เตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายของ “กิโลเมตรสุดท้าย” เมื่อไปจุดชมแกะ ทั้ง “ถนนดินแดง” 7 และ “สัญญาณมือถือที่อาจขาดหาย” 11 โดยใช้ GPS และป้ายบอกทางของชาวบ้านควบคู่กัน 7



แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : เปิดโลกอ่างเก็บน้ำปราณบุรี: สองขั้วความงามแห่งประจวบคีรีขันธ์ จากมรดกแผ่นดินสู่สวิตเซอร์แลนด์แดนปราณฯ