โรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้สมัครและผู้สนใจ

ชวนเพื่อนเที่ยวได้เลยจ้า

โรงเรียนนายสิบทหารบก (รร.นส.ทบ.) คือสถาบันหลักของกองทัพบกไทยในการผลิตนายทหารชั้นประทวน ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “กระดูกสันหลังของกองทัพบก” สถาบันแห่งนี้ตั้งอยู่ในอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่หล่อหลอมบุคคลให้เป็นผู้นำหน่วยทหารขนาดเล็กที่มีระเบียบวินัย ความรู้ความสามารถ และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือที่ครอบคลุมทุกมิติสำหรับผู้ที่สนใจสมัครเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก (นนส.ทบ.) ครอบครัว และสาธารณชนทั่วไป โดยรวบรวมข้อมูลเชิงลึกตั้งแต่ภาพรวมของสถาบัน ประวัติศาสตร์อันยาวนาน หลักสูตรการฝึกที่เข้มข้น กระบวนการรับสมัครที่ต้องเตรียมความพร้อม ไปจนถึงคำแนะนำการเดินทางจากทุกภูมิภาคของประเทศอย่างละเอียด

ภาพรวมโรงเรียนนายสิบทหารบก

ส่วนนี้จะนำเสนอข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับอัตลักษณ์ ภารกิจ และโครงสร้างของโรงเรียนนายสิบทหารบก

ภารกิจ วิสัยทัศน์ และอัตลักษณ์

ภารกิจอย่างเป็นทางการของโรงเรียนนายสิบทหารบกถูกระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “การฝึกและศึกษาเป็นเลิศ แหล่งกำเนิดนายทหารประทวนหลัก ของกองทัพบก” ซึ่งสะท้อนบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการผลิตนายทหารชั้นประทวนที่มีคุณภาพป้อนเข้าสู่หน่วยต่างๆ ทั่วกองทัพบก

อัตลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของสถาบันแห่งนี้ถูกสรุปไว้ในวลีที่ทรงพลังว่า “กระดูกสันหลังของกองทัพบก” คำกล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำขวัญ แต่เป็นปรัชญาที่กำกับการดำเนินงานทั้งหมดของโรงเรียน การเป็น “กระดูกสันหลัง” หมายถึงการเป็นโครงสร้างหลักที่ค้ำจุนและเชื่อมโยงระหว่างชั้นนายทหารสัญญาบัตร (ผู้บังคับบัญชา) กับพลทหาร (ผู้ปฏิบัติ) นายทหารประทวนจึงต้องมีความแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ สามารถนำคำสั่งไปปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และเป็นผู้นำที่ดูแลทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ หลักสูตรการฝึกจึงไม่ได้มุ่งเน้นเพียงทักษะการรบ แต่ยังปลูกฝังคุณลักษณะทางทหารที่สำคัญ ได้แก่ ความมีวินัยเคร่งครัด ความทรหดอดทน ภาวะผู้นำ และอุดมการณ์ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์อย่างแน่วแน่

แม้จะไม่มีการระบุ “วิสัยทัศน์” อย่างเป็นทางการในเอกสาร แต่ความมุ่งหมายของโรงเรียนคือการเตรียมบุคลากรให้เป็นผู้นำและผู้บริหารระดับต้นที่มีคุณธรรม จริยธรรม และยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ

ที่ตั้งและสภาพแวดล้อม

โรงเรียนนายสิบทหารบกตั้งอยู่ ณ เลขที่ 8 ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฏ ถนนเพชรเกษม ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รหัสไปรษณีย์ 77110 เดิมทีค่ายแห่งนี้เป็นที่ตั้งของค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ก่อนจะได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฏ” ในปี พ.ศ. 2559 การได้รับพระราชทานนามค่ายเป็นการเพิ่มเกียรติภูมิและความผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ให้แก่สถานที่แห่งนี้

ที่ตั้งในอำเภอหัวหินซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่สำคัญ ทำให้การคมนาคมสะดวกสบาย สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อประโยชน์ต่อผู้สมัครและครอบครัวที่ต้องเดินทางมายังโรงเรียน

โครงสร้างการจัดหน่วย

โครงสร้างการปกครองบังคับบัญชานักเรียนนายสิบทหารบกถูกจัดแบ่งอย่างเป็นระบบเพื่อประสิทธิภาพในการฝึกและการดูแล โดยแบ่งออกเป็น 3 กองพันนักเรียนนายสิบ ซึ่งแต่ละกองพันจะประกอบด้วยกองร้อยนักเรียน รวมทั้งสิ้น 12 กองร้อย

สิ่งที่น่าสนใจคือ แต่ละกองร้อยจะมีชื่อเรียกตามสัตว์ที่มีความแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม เช่น กองพันที่ 1 กองร้อยที่ 1 ใช้ชื่อว่า “ร้อยกระทิง” และกองร้อยที่ 2 ใช้ชื่อว่า “ร้อยสิงโต” การตั้งชื่อในลักษณะนี้เป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหน่วยทหารทั่วโลก เพื่อสร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและความภาคภูมิใจในหน่วยของตนเอง (Esprit de Corps) ซึ่งจะนำไปสู่การแข่งขันในเชิงสร้างสรรค์ระหว่างกองร้อย ทั้งในด้านการฝึก การกีฬา และระเบียบวินัย อันเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมุ่งมั่นฝึกฝนตนเองอย่างเต็มความสามารถเพื่อเกียรติยศของกองร้อย

สัญลักษณ์และประเพณี

สัญลักษณ์ประจำโรงเรียนนายสิบทหารบกได้รับการออกแบบให้มีความหมายลึกซึ้ง สะท้อนถึงภารกิจและสังกัดของหน่วย

  • จักร: เป็นสัญลักษณ์ของกองทัพบก
  • คบเพลิง: หมายถึงแสงสว่างแห่งปัญญาและความรู้
  • ดอกจัน: เป็นตัวแทนของนักเรียนนายสิบทหารบก
  • แพรแถบ: ระบุนามหน่วย “โรงเรียนนายสิบทหารบก” แสดงถึงการเป็นหน่วยขึ้นตรงของกรมยุทธศึกษาทหารบก

สีประจำโรงเรียนคือ สีแดง-เขียว นอกจากนี้ โรงเรียนยังมีพิธีการและประเพณีที่สำคัญ เช่น พิธีประดับเครื่องหมายยศสิบตรี ซึ่งเป็นวันที่นักเรียนนายสิบจะได้รับการประดับยศและสำเร็จการศึกษาอย่างเป็นทางการ ถือเป็นวันที่น่าภาคภูมิใจและเปี่ยมด้วยเกียรติยศสำหรับนักเรียนและครอบครัว

เส้นทางแห่งเกียรติยศ: ประวัติความเป็นมา

ประวัติของโรงเรียนนายสิบทหารบกนั้นมีความเป็นมาที่ยาวนานและไม่ต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนากำลังพลของกองทัพบกในแต่ละยุคสมัย

ยุคก่อกำเนิดในรัชสมัยที่ 5

รากฐานของการฝึกนายทหารประทวนในประเทศไทยสามารถย้อนกลับไปได้ถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ในปี พ.ศ. 2424 พระองค์ทรงมีพระบรมราโชบายปฏิรูปกองทัพให้ทันสมัย จึงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงเรียนสำหรับฝึกนายร้อยและนายสิบขึ้น ได้แก่ “โรงเรียนคะเด็ตทหารมหาดเล็ก” และ “โรงเรียนคะเด็ตทหารหน้า” ต่อมาในปี พ.ศ. 2430 ได้ทรงรวมโรงเรียนทั้งสองแห่งเข้าด้วยกันเป็น “โรงเรียนทหารสราญรมย์” เพื่อสร้างมาตรฐานการศึกษาทางทหารให้เป็นหนึ่งเดียว อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างกำลังพลทหารอาชีพของไทย

การสถาปนาในยุคปัจจุบัน

โรงเรียนนายสิบทหารบกในรูปแบบปัจจุบันได้รับการสถาปนาขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ตามคำสั่งกองทัพบก โดยเป็นหน่วยวิทยาการขึ้นตรงต่อกรมยุทธศึกษาทหารบก และมีที่ตั้งแห่งแรก ณ ค่ายธนะรัชต์ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ วันที่ 23 มิถุนายน จึงถือเป็นวันสถาปนาของหน่วยมาจนถึงปัจจุบัน

การจัดตั้งใหม่และการย้ายสู่หัวหิน

ประวัติศาสตร์ของโรงเรียนมีช่วงเวลาที่น่าสนใจคือการยุติการผลิตและปิดหน่วยไปช่วงหนึ่ง ซึ่งเผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเชิงนโยบายของกองทัพบกเกี่ยวกับการฝึกนายทหารประทวน ระหว่างปี พ.ศ. 2529-2532 กองทัพบกได้งดการผลิตนักเรียนนายสิบจากสถาบันแห่งนี้ และมอบหมายให้โรงเรียนเหล่าสายวิทยาการต่างๆ และกองทัพภาคเป็นผู้ดำเนินการผลิตนายทหารประทวนเอง 6 ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการฝึกแบบกระจายศูนย์

อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2539 พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้น ได้มีดำริให้จัดตั้งโรงเรียนนายสิบทหารบกขึ้นมาอีกครั้ง 4 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นสถาบันหลักในการผลิตนายทหารประทวนที่มาจาก “สถาบันเดียวกัน” การตัดสินใจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่ากองทัพบกได้ประเมินแล้วว่ารูปแบบการฝึกแบบกระจายศูนย์อาจขาดความเป็นมาตรฐานเดียวกันและไม่สามารถสร้างอัตลักษณ์ร่วมของนายทหารประทวนทั้งกองทัพได้ การกลับมาจัดตั้งโรงเรียนนายสิบอีกครั้งจึงเป็นการหวนคืนสู่แนวทางการฝึกแบบรวมศูนย์ เพื่อควบคุมคุณภาพ สร้างมาตรฐานหลักนิยม และหล่อหลอมจิตวิญญาณความเป็นนายสิบทหารบกให้เป็นหนึ่งเดียวทั่วทั้งกองทัพ

หลังจากการจัดตั้งใหม่ โรงเรียนได้ย้ายจากที่ตั้งเดิมที่อำเภอปราณบุรีมายังที่ตั้งปัจจุบัน ณ ค่ายโยธินศึกษามหามงกุฏ (ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัยเดิม) ในอำเภอหัวหิน ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและเหมาะสมกว่า

เส้นทางสู่การเป็นนายทหารประทวน: หลักสูตรและการฝึก

ส่วนนี้จะอธิบายถึงกระบวนการฝึกฝนและหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนพลเรือนและทหารกองประจำการให้กลายเป็นนายทหารประทวนมืออาชีพ

ภาพรวมหลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบก

หลักสูตรนักเรียนนายสิบทหารบกมีระยะเวลาการศึกษารวมทั้งสิ้น 1 ปี 6 เดือน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงสำคัญ คือ

  1. ช่วงที่ 1: การฝึกพื้นฐาน ณ โรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน เป็นระยะเวลา 1 ปี (หรือ 10-12 เดือน ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงหลักสูตรในแต่ละปี) เพื่อสร้างพื้นฐานความเป็นทหารและผู้นำหน่วยขนาดเล็ก
  2. ช่วงที่ 2: การศึกษาตามโรงเรียนเหล่าสายวิทยาการ เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อฝึกฝนความรู้ความชำนาญเฉพาะทางตามเหล่าที่นักเรียนได้รับการคัดเลือก เช่น ทหารราบ ทหารม้า ทหารปืนใหญ่ เป็นต้น

เมื่อสำเร็จการศึกษาครบทั้ง 2 ช่วงแล้ว นักเรียนนายสิบจะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งยศเป็น “สิบตรี” ประจำการในหน่วยต่างๆ ของกองทัพบกต่อไป

การฝึกหลัก ณ โรงเรียนนายสิบทหารบก

หลักสูตรปัจจุบัน (หมายเลขหลักสูตร 103-ซ-111) มีระยะเวลา 52 สัปดาห์ ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับนโยบายการฝึกศึกษาของกองทัพบก พ.ศ. 2565 โดยมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สำเร็จการฝึกอบรม 6 ประการ คือ

  1. มีความสามารถปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าชุดยิง ของหมู่ปืนเล็กทหารราบได้
  2. มีความสามารถปฏิบัติหน้าที่ ครูฝึกทหารใหม่ ได้
  3. มีความสามารถปฏิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ธุรการ/เสมียน ในกองบังคับการได้
  4. มีคุณลักษณะผู้นำที่ดี มีวินัย กล้าหาญ เสียสละ และมีอุดมการณ์เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
  5. มีความสามารถในการพัฒนาองค์ความรู้ทางทหารอย่างต่อเนื่อง
  6. มีทักษะด้าน ดิจิทัลและภาษาอังกฤษ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานและการศึกษาหาความรู้ตลอดชีวิต

การออกแบบหลักสูตรดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า กองทัพบกมุ่งหวังที่จะผลิตนายทหารประทวนให้เป็น “ผู้นำหน่วยอเนกประสงค์” ไม่ใช่เพียงนักรบในสมรภูมิเท่านั้น การผสมผสานระหว่างทักษะการนำหน่วยรบ (ข้อ 1) ทักษะการสอน (ข้อ 2) และความสามารถด้านงานธุรการ (ข้อ 3) สะท้อนให้เห็นว่านายทหารประทวนในยุคปัจจุบันต้องเป็นผู้จัดการระดับหมวดและกองร้อยที่มีความสามารถรอบด้าน นอกจากนี้ การบรรจุทักษะด้านดิจิทัลและภาษาอังกฤษ (ข้อ 6) ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความพยายามในการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย เพื่อให้นายทหารประทวนสามารถปฏิบัติงานในสภาพแวดล้อมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและอาจต้องร่วมปฏิบัติภารกิจในระดับนานาชาติได้

โครงสร้างการฝึก 52 สัปดาห์ ประกอบด้วย วิชาหลัก 35 สัปดาห์, วิชารอง 7 สัปดาห์, วิชาประกอบ 5 สัปดาห์ และเวลาเบ็ดเตล็ด 5 สัปดาห์

หนึ่งวันในชีวิตนักเรียนนายสิบ

ชีวิตในรั้วโรงเรียนนายสิบทหารบกนั้นเต็มไปด้วยระเบียบวินัยและมีแบบแผนที่เคร่งครัด ตั้งแต่รุ่งสางจนถึงเวลาเข้านอน

  • 05:30 น.: ตื่นนอน จัดการภารกิจส่วนตัว และจัดเก็บที่นอนเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ
  • ช่วงเช้า: ออกกำลังกาย (Physical Training) จากนั้นรวมแถว รับประทานอาหารเช้า และเข้าร่วมพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา
  • ช่วงกลางวัน: เข้ารับการศึกษาทั้งในห้องเรียน (ภาควิชาการ) และการฝึกภาคสนาม (ยุทธวิธี การใช้อาวุธ การฝึกท่าบุคคล)
  • ช่วงเย็น: รับประทานอาหารเย็น เข้าร่วมพิธีเชิญธงชาติลง และมีชั่วโมงสำหรับการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง (โต๊ะฝึกฝน)
  • ช่วงกลางคืน: เป็นเวลาพักผ่อนส่วนตัวก่อนจะดับไฟนอนในเวลาประมาณ 22:00 น. โดยจะเปิดเพียงไฟราว (ไฟสลัว) ทิ้งไว้

กิจวัตรประจำวันที่เข้มงวดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อหล่อหลอมคุณลักษณะด้านวินัย การตรงต่อเวลา และความอดทน เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากพลเรือนสู่การเป็นทหารอาชีพอย่างสมบูรณ์

การเลือกเหล่าและโอกาสศึกษาต่อ

จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดในการฝึกคือการประเมินผลเมื่อสิ้นสุดการฝึกในช่วง 6 เดือนแรก นักเรียนจะถูกจัดลำดับคะแนนจากผลการศึกษา ความสมบูรณ์ของร่างกาย และความประพฤติ ลำดับคะแนนนี้จะส่งผลโดยตรงต่ออนาคตของนักเรียน เพราะจะใช้เป็นเกณฑ์ในการให้สิทธิ์เลือกเหล่าทหารที่จะไปศึกษาต่อในโรงเรียนเหล่าสายวิทยาการ

การประเมินผลในช่วง 6 เดือนนี้จึงสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่เข้มข้น เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนแสดงศักยภาพสูงสุดออกมาตั้งแต่เริ่มต้น นอกจากนี้ ยังมีโอกาสพิเศษสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนและความประพฤติดีเยี่ยม โดยจะได้รับการคัดเลือกให้มีสิทธิ์สมัครเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งเป็นเส้นทางสู่การเป็นนายทหารสัญญาบัตรต่อไป ระบบการประเมินผลนี้จึงทำหน้าที่เป็นทั้งเครื่องมือคัดกรองคุณภาพและเป็นแรงจูงใจชั้นดีตลอดช่วงการฝึกที่หนักหน่วงที่สุด

ประตูสู่รั้วโรงเรียนนายสิบ: การรับสมัครและกระบวนการคัดเลือก

ส่วนนี้จะให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการสมัคร ซึ่งมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง

คุณสมบัติและเกณฑ์การรับสมัคร

กองทัพบกเปิดรับสมัครบุคคลเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกจาก 2 กลุ่มหลัก โดยมีสัดส่วนที่แตกต่างกันในแต่ละปี

  • บุคคลพลเรือน: เป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนน้อยกว่า เช่น ในปีการศึกษา 2568 รับจำนวน 440 นาย หรือคิดเป็น 20% ของยอดรับทั้งหมด
  • ทหารกองประจำการและกำลังพลของกองทัพ: เป็นกลุ่มรับสมัครหลักซึ่งรวมถึงทหารเกณฑ์จากทุกเหล่าทัพ, ทหารกองหนุน, พลอาสาสมัคร, และอาสาสมัครทหารพราน โดยมีสัดส่วนที่สูงกว่า เช่น ในปีการศึกษา 2568 รับจำนวน 1,760 นาย หรือคิดเป็น 80%

คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร:

  • สัญชาติ: เป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิด และบิดามารดามีสัญชาติไทยโดยการเกิด (มีข้อยกเว้นกรณีบิดาเป็นทหาร)
  • การศึกษา: สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 (ม.6) หรือเทียบเท่า (ปวช., กศน.) หรือกำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนสุดท้าย ไม่จำกัดสายการเรียนและเกรดเฉลี่ย
  • อายุ: บุคคลพลเรือนอายุ 18-22 ปีบริบูรณ์, ทหารกองประจำการและกลุ่มอื่น ๆ อายุไม่เกิน 24 ปีบริบูรณ์
  • สถานภาพ: เป็นชายโสด (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)
  • ร่างกาย: มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ และต้องว่ายน้ำเป็นระยะทางไม่น้อยกว่า 25 เมตร

ตารางข้อกำหนดด้านเอกสารทางทหารสำหรับผู้สมัครบุคคลพลเรือน

หนึ่งในประเด็นที่สร้างความสับสนมากที่สุดสำหรับผู้สมัครพลเรือนคือข้อกำหนดด้านเอกสารทางทหาร (สด.) ซึ่งมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอายุและสถานะการศึกษาวิชาทหาร (รด.) ตามกฎหมายการเกณฑ์ทหาร

อายุเอกสารที่ต้องใช้คำอธิบาย
18-20 ปีสด.9คือใบสำคัญทหารกองเกิน ซึ่งเป็นเอกสารลงบัญชีทหารครั้งแรก ชายไทยทุกคนในวัยนี้ที่ยังไม่ได้ผ่านการเกณฑ์ทหารจะต้องมีเอกสารนี้
21 ปีสด.8 เท่านั้นเป็นปีที่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร (เกณฑ์ทหาร) ผู้ที่จะสมัครได้ต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการฝึกวิชาทหาร (รด.) ชั้นปีที่ 3 และขึ้นทะเบียนนำปลดแล้วเท่านั้น ซึ่งจะได้รับเอกสาร สด.8 เป็นหลักฐาน หากมีเพียง สด.9 จะไม่สามารถสมัครได้ เพราะมีภาระต้องไปเกณฑ์ทหาร
22 ปีสด.8 หรือ สด.43ผู้สมัครในวัยนี้สามารถใช้ สด.8 (กรณีจบ รด.ปี 3) หรือ สด.43 ซึ่งเป็นใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (กรณีผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว เช่น จับได้ใบดำ)

ขั้นตอนและกำหนดการรับสมัคร

  • ช่วงเวลารับสมัคร: โดยทั่วไปจะเปิดรับสมัครทางออนไลน์ในช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง มกราคม ของทุกปี เพื่อคัดเลือกเข้าศึกษาในปีการศึกษาถัดไป
  • ช่องทางการสมัคร: รับสมัครผ่านระบบออนไลน์ “รับสมัครและสอบคัดเลือกบุคคลเข้าปฏิบัติงานในกองทัพบก One Stop Service” เท่านั้น ซึ่งบริหารจัดการโดยกรมยุทธศึกษาทหารบก เว็บไซต์หลักที่เกี่ยวข้องคือ atc.rta.mi.th และ radd-atc.rta.mi.th
  • เอกสารประกอบการสมัครออนไลน์: ผู้สมัครต้องเตรียมไฟล์เอกสารดิจิทัลให้พร้อม ได้แก่ รูปถ่ายหน้าตรง (ไฟล์ JPEG), สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, หลักฐานการศึกษา และเอกสารทางทหาร (สด.8/9/43) ที่แปลงเป็นไฟล์ PDF

การสอบคัดเลือก

กระบวนการสอบคัดเลือกแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอน เริ่มจากการสอบภาควิชาการ

  • การสอบภาควิชาการ: เป็นการสอบข้อเขียนครอบคลุม 5 วิชาหลัก ได้แก่
    • คณิตศาสตร์ (25 ข้อ)
    • วิทยาศาสตร์ (25 ข้อ)
    • ภาษาไทย (25 ข้อ)
    • ภาษาอังกฤษ (25 ข้อ)
    • ความรู้ทั่วไป (20 ข้อ) ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสตร์พระราชา, ศีลธรรม และความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับทหาร
  • การแข่งขันในการสอบภาควิชาการค่อนข้างสูง จึงมีหนังสือคู่มือเตรียมสอบและแนวข้อสอบวางจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

การทดสอบสมรรถภาพร่างกายและการสัมภาษณ์

ผู้ที่สอบผ่านภาควิชาการจะต้องเข้ารับการทดสอบในรอบที่สอง ซึ่งประกอบด้วยการตรวจร่างกาย, การทดสอบสมรรถภาพ และการสัมภาษณ์

  • การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย: มีเกณฑ์การทดสอบตามมาตรฐานของกองทัพบกเพื่อวัดความแข็งแรงและความอดทนของร่างกาย โดยเฉพาะการทดสอบว่ายน้ำ 25 เมตร ถือเป็นด่านสำคัญที่ต้องผ่าน
  • การสัมภาษณ์: เป็นการประเมินท่วงทีวาจา บุคลิกภาพ และทัศนคติ เพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการเป็นทหารอาชีพ

คู่มือการเดินทางสู่โรงเรียนนายสิบทหารบก

ส่วนนี้ได้รวบรวมข้อมูลการเดินทางที่จำเป็นและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปยังโรงเรียนนายสิบทหารบก อำเภอหัวหิน จากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

ตารางสรุปภาพรวมการเดินทางสู่หัวหิน

ภาคต้นทางรูปแบบการเดินทางสถานี/บริษัทหลักระยะเวลาโดยประมาณค่าใช้จ่ายโดยประมาณ (บาท)หมายเหตุ
กรุงเทพฯรถยนต์ส่วนตัว2.5 – 3.5 ชม.ใช้เส้นทาง ถ.เพชรเกษม
รถบัส/รถตู้หมอชิต 2, เอกมัย, สายใต้ใหม่3 – 4 ชม.180 – 250มีรถออกเดินทางบ่อยครั้ง
รถไฟสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์, สถานีธนบุรี3.5 – 4.5 ชม.44 – 330+เส้นทางชมทิวทัศน์สวยงาม
ภาคอีสานรถยนต์ส่วนตัว6 – 12+ ชม.ผ่าน ถ.มิตรภาพ มุ่งหน้าสระบุรี และลงใต้
รถบัสประกิจยนต์ (โคราช), สมบัติทัวร์ (ขอนแก่น)7 – 12+ ชม.470 – 950มีรถทัวร์สายตรงให้บริการ
รถไฟ10 – 15+ ชม.ต้องต่อรถไฟที่กรุงเทพฯ ไม่สะดวก
ภาคเหนือรถยนต์ส่วนตัว10 – 14+ ชม.ใช้เส้นทางสายเอเชีย (AH2)
รถบัสสมบัติทัวร์ (เชียงใหม่)12 – 13 ชม.900 – 1,200มีรถทัวร์ VIP วิ่งตรง (กลางคืน)
รถไฟ15 – 20+ ชม.ต้องต่อรถไฟที่กรุงเทพฯ ไม่สะดวก
เครื่องบินไทยแอร์เอเชีย (จากเชียงใหม่)1 ชม. 20 นาที1,500 – 4,000+ตัวเลือกที่เร็วที่สุด บินตรงถึงสนามบินหัวหิน
ภาคใต้รถยนต์ส่วนตัวแตกต่างกันไปใช้เส้นทาง ถ.เพชรเกษม
รถบัสมีหลายบริษัทแตกต่างกันไป600+จากเมืองใหญ่ทางภาคใต้
รถไฟการรถไฟแห่งประเทศไทยแตกต่างกันไป200 – 1,600+สะดวกที่สุด หัวหินเป็นสถานีหลักของสายใต้

การเดินทางจากกรุงเทพมหานครและภาคกลาง

  • รถยนต์ส่วนตัว: เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) เชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) มุ่งหน้าลงใต้ผ่านจังหวัดเพชรบุรีเข้าสู่หัวหิน โรงเรียนตั้งอยู่ติดถนนเพชรเกษม
  • รถโดยสารประจำทาง (รถทัวร์/รถตู้): เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุด
    • สถานีขนส่งเอกมัย: มีรถมินิบัสและรถตู้ออกเดินทางตลอดทั้งวัน ใช้เวลาเดินทาง 3-4 ชั่วโมง
    • สถานีขนส่งหมอชิต 2: มีทั้งรถทัวร์และรถตู้ให้บริการ เช่น บริษัท เจ.เค.พี. ทรานสปอร์ต
    • สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ (ถนนบรมราชชนนี): เป็นสถานีหลักสำหรับเส้นทางสายใต้ มีรถให้บริการจำนวนมากและบ่อยครั้งที่สุด
    • ข้อควรระวัง: สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถตู้ ควรแจ้งคนขับให้ชัดเจนว่าต้องการลงที่ “โรงเรียนนายสิบ สวนสน” เพื่อให้แน่ใจว่ารถจะวิ่งเส้นทางในเมืองและผ่านหน้าโรงเรียน ไม่ใช่เส้นทางเลี่ยงเมือง (บายพาส)
  • รถไฟ: สามารถขึ้นรถไฟได้จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีธนบุรี โดยมีปลายทางที่สถานีรถไฟหัวหิน หรือสถานีสวนสนประดิพัทธ์ซึ่งอยู่ใกล้โรงเรียนมากกว่า เป็นทางเลือกที่ประหยัดและได้ชมทิวทัศน์ระหว่างทาง

การเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  • รถยนต์ส่วนตัว: ขับรถมุ่งหน้ามาทางจังหวัดสระบุรี จากนั้นใช้เส้นทางวงแหวนรอบนอกของกรุงเทพฯ เพื่อเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) มุ่งหน้าลงใต้
  • รถโดยสารประจำทาง: เป็นวิธีที่สะดวกและมีประสิทธิภาพที่สุด เนื่องจากมีบริการรถทัวร์วิ่งตรง
    • จากนครราชสีมา (โคราช): บริษัท ประกิจยนต์ ทัวร์ มีบริการรถโดยสารวิ่งตรงมายังหัวหิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
    • จากขอนแก่น: บริษัท สมบัติทัวร์ มีบริการรถโดยสารสาย ขอนแก่น-หัวหิน-ภูเก็ต ซึ่งจะจอดที่หัวหิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-12 ชั่วโมง
  • รถไฟ/เครื่องบิน: ไม่แนะนำเนื่องจากไม่มีเส้นทางบินตรง และการเดินทางโดยรถไฟจะต้องเสียเวลาเปลี่ยนขบวนที่กรุงเทพฯ ทำให้ใช้เวลานานกว่ารถโดยสารประจำทางมาก

การเดินทางจากภาคเหนือ

  • รถยนต์ส่วนตัว: เป็นการเดินทางระยะไกล โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย) ผ่านจังหวัดนครสวรรค์ เข้าสู่เขตปริมณฑลเพื่อเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม
  • เครื่องบิน: เป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกสบายที่สุด
    • สายการบินไทยแอร์เอเชียมีเที่ยวบินตรงจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ (CNX) มายังท่าอากาศยานหัวหิน (HHQ) ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที
  • รถโดยสารประจำทาง: เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่าเครื่องบิน
    • จากเชียงใหม่: บริษัท สมบัติทัวร์ มีบริการรถทัวร์ VIP วิ่งตรงจากสถานีขนส่งอาเขต 2 เชียงใหม่ มายังหัวหิน เป็นรถรอบกลางคืน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 12-13 ชั่วโมง
  • รถไฟ: ไม่แนะนำ เนื่องจากต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์) ก่อน แล้วจึงต่อขบวนรถไฟสายใต้ไปยังหัวหิน ทำให้ใช้เวลาเดินทางรวมนานมาก

การเดินทางจากภาคใต้

  • รถยนต์ส่วนตัว: เดินทางขึ้นเหนือมาตามทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่ผ่านจังหวัดใหญ่ทางภาคใต้และมุ่งตรงสู่หัวหิน
  • รถไฟ: เป็นวิธีเดินทางสาธารณะที่สะดวกและตรงที่สุด
    • สถานีรถไฟหัวหินเป็นสถานีหลักของรถไฟสายใต้ ขบวนรถด่วนและรถเร็วทุกขบวนที่มาจากต้นทางภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ สุราษฎร์ธานี ตรัง จะจอดที่สถานีหัวหิน การเดินทางจากหาดใหญ่ใช้เวลาประมาณ 10-12 ชั่วโมง
  • รถโดยสารประจำทาง: รถทัวร์ระยะไกลจากเมืองใหญ่ทางภาคใต้ที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ จะวิ่งผ่านและมีจุดจอดที่หัวหิน ผู้โดยสารสามารถซื้อตั๋วโดยระบุปลายทางที่หัวหินได้โดยตรง

ข้อมูลการติดต่อและแหล่งข้อมูลอ้างอิง

สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อกับทางโรงเรียนโดยตรง สามารถใช้ข้อมูลดังต่อไปนี้

  • ชื่อหน่วยงาน: โรงเรียนนายสิบทหารบก
  • ชื่อย่อ: รร.นส.ทบ. (NCO.RTA)
  • ที่อยู่: เลขที่ 8 ถนนเพชรเกษม ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77110
  • หมายเลขโทรศัพท์: +66 (0) 3290 0144
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://nco.rta.mi.th
  • เว็บไซต์การรับสมัคร:
    • กรมยุทธศึกษาทหารบก: http://atc.rta.mi.th
    • กองคัดสรรและพัฒนาบุคลากร: http://radd-atc.rta.mi.th

บทสรุป

โรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน ไม่ได้เป็นเพียงสถาบันการศึกษาทางทหาร แต่เป็นเบ้าหลอมที่สร้าง “กระดูกสันหลัง” ให้กับกองทัพบกไทย ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน หลักสูตรการฝึกที่เข้มข้นและทันสมัย และกระบวนการคัดเลือกที่มุ่งเน้นคุณภาพ ทำให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้เป็นนายทหารประทวนที่มีความพร้อมทั้งในด้านการรบ การปกครองบังคับบัญชา และการปฏิบัติงานในยุคดิจิทัล สำหรับผู้ที่มุ่งมั่นจะรับใช้ชาติในฐานะทหารอาชีพ เส้นทางสู่รั้วโรงเรียนนายสิบทหารบกแห่งนี้คือบทพิสูจน์แรกของความอดทน ความมุ่งมั่น และความเสียสละ ซึ่งจะนำไปสู่ชีวิตรับราชการที่เปี่ยมด้วยเกียรติภูมิและความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกไทย

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับเรื่อง : โรงเรียนนายสิบทหารบก หัวหิน: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้สมัครและผู้สนใจ